วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สารต้านอนุมูลอิสระ

ก่อนอื่นขออธิบายคำว่า กระบวนการออกซิเดชัน  (Oxidation) หรือการเกิดปฏิกิริยาออกซิไดส์ (Oxidise ) กันก่อนนะคะ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ออกแนววิชาการไปนิดหนึ่ง แต่ก็เข้าใจได้ง่ายค่ะ

ออกซิเดชัน  (Oxidation)

ออกซิไดส์  (Oxidize) หรือ  ออกซิเดชัน  (Oxidation)  หมายถึง  ปฎิกิริยาจากออกซิเจน  ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ  ก็ทำนองเดียวกับการเกิดสนิมเหล็กที่ตัวถังรถยนต์นั่นเอง  การเกิดสนิมเป็นปฏิกิริยาออกซิไดส์ที่เหล็กสัมผัสกับออกซิเจนและความชื้นในอากาศ  และกลายเป็นสนิม  และในที่สุดรถก็จะผุพังไป  

กระบวนการออกซิเดชั่นเกิดขึ้นในร่างกายอยู่ตลอดเวลา จากการย่อยสลายโปรตีนและไขมันจากอาหารที่กินเข้าไปเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานสำหรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หรือเกิดจากมลพิษทางอากาศ การหายใจ ควันบุหรี่ ไอเสียรถยนต์ สารพิษจากยาฆ่าแมลง รังสียูวี แม้กระทั่งสเปรย์ระงับกลิ่นตัว

ผลพลอยได้จากกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) คือ อนุมูลอิสระ

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข้าวโพดหวาน


ข้าวโพดหวานเป็นมากกว่าอาหารว่าง หรือ อาหารทานเล่น เพราะข้าวโพดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันมะเร็งและล้างพิษออกจากร่างกาย ชะลอความแก่ ป้องกันโรคต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมในวัยชรา

มีรายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาโดยนักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐอเมริกาว่าข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด โดยเขาได้ทดลองต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน คือ 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22%, 44% และ 53% ตามลำดับ และปลดปล่อยกรดเฟรุลิก (Ferulic acis) ซึ่งเป็นพวกพฤกษเคมีที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายสูงในด้านช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอันเนื่องมาจากความชรา ออกมามากขึ้นเป็นปริมาณ 240%, 550% และ 900% ตามลำดับ

สรรพคุณ

ข้าวโพดเป็นพืชที่ให้พลังงานสูง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก แถมยังมีโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ และวิตามินที่มีประโยชน์อีกมากมาย เช่นวิตามินซี วิตามินเอซึ่งมาในรูปของเบต้าแคโรทีน วิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ลูเทียน และซีแซนทิน ซึ่งเป็นสารคาโรตีนอย ช่วยป้องกันตาเสื่อมสภาพ

สรรพคุณทางยา
  • ซังข้าวโพด นำมาต้มน้ำดื่มแก้บิด ท้องร่วง ขับปัสสาวะ
  • หนวด หรือ ไหมข้าวโพด นำมาต้มน้ำดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำเนื่องจากไตอักเสบ เหน็บชา ดีซ่านที่เกิดจากตับอักเสบ ความดันโลหิตสูง ถุงน้ำดีอักเสบ เบาหวาน อาเจียนเป็นโลหิต เลือดกำเดาออก
  • เมล็ดข้าวโพด มีรสหวาน ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ และนำมาบดพอกรักษาแผล

วิธีใช้
  1. แก้อาการบวมน้ำ ขับปัสสาวะ ใช้หนวดข้าวโพด 60 กรัม ต้มน้ำดื่ม และงดทาน
    ของเค็ม
  2. ไตอักเสบหรือนิ่วในไตระยะแรก ใช้หนวดข้าวโพดจำนวนพอประมาณ ต้มน้ำดื่ม
    เป็นประจำ
  3. อาเจียนเป็นโลหิต ใช้หนวดข้าวโพดจำนวนพอประมาณ เคี่ยวเอาน้ำ แล้วตุ๋นกับ
    เนื้อหมูแดง
  4. เบาหวาน ใช้หนวดข้าวโพด 30 กรัมต้มน้ำดื่มติดต่อกันหลายๆ วันจนอาการดีขึ้น
ชื่อสามัญ : ข้าวโพดหวาน

ชื่อวิทยาศาสตร์: Zea mays Linn.

ชื่อวงศ์ : Poaceae

ชื่ออื่น : ข้าวสาลี สาลี (เหนือ) คง (กระบี่) โพด (ใต้) บือเคเส่ะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ชื่ออังกฤษ : Sweet Corn

วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทอดมันข้าวโพด


ส่วนผสม
  •   ข้าวโพดหวาน  1 1/2  ถ้วยตวง
  •   หมูสับละเอียด  1/4  ถ้วยตวง   
  •   แป้งสาลีอเนกประสงค์  1/3  ถ้วยตวง  (ส่วนที่ 1)
  •   แป้งสาลีอเนกประสงค์  1/4  ถ้วยตวง  (ส่วนที่ 2)
  •   ไข่ไก่  1  ฟอง  
  •   เกลือ  1  ช้อนชา
  •   น้ำตาลทราย  1  ช้อนชา
  •   น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
  1. ข้าวโพดปอกเปลือกฝานบางๆ เอาแต่เนื้อข้าวโพด
  2. โขลกข้าวโพดที่ฝานแล้วเบาๆ ในครก โขลกพอให้ข้าวโพดมีน้ำออกมานิดหน่อย
    อย่าให้เละ
  3. ผสมข้าวโพด เนื้อหมูบด เกลือ น้ำตาลทราย ไข่ไก่ นวดให้เข้ากัน
  4. ผสมแป้งส่วนที่ 1 ลงในส่วนผสมข้าวโพด นวดจนเข้ากันดี
  5. นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดใหญ่เล็กแล้วแต่สะดวก แต่อย่าให้ใหญ่มาก เดี๋ยว
    ทอดแล้วข้างในไม่สุก แล้วกดให้แบนเล็กน้อย
  6. นำไปเคล้าแป้งสาลีแห้งส่วนที่ 2 บางๆ
  7. ตั้งกะทะน้ำมันให้ร้อนจัด ลดไฟลงเหลือปานกลาง
  8. นำส่วนผสมข้าวโพดลงทอดในน้ำมันจนสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟ
    กับน้ำจิ้ม

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
  • น้ำส้มสายชู  2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า  2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย  2  ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น  1/2  ช้อนชา
  • พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด  1  เม็ด
  • ถั่วลิสงคั่วบด  2  ช้อนโต๊ะ
  • แตงกวาหั่น  1  ผล

วิธีทำน้ำจิ้ม

  1. ผสมน้ำตาล น้ำเปล่า น้ำส้ม เกลือป่น ให้เข้ากัน ตั้งไฟเคี่ยวให้เดือดสักครู่ ยกลง
  2. ผสมพริกแดงโขลก ทิ้งให้เย็น เวลาเสิร์ฟใส่ถั่วลิสงคั่วป่น แตงกวา
สรรพคุณข้าวโพด
  1. ล้างสารพิษ
  2. ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายได้สูง เนื่องจากว่ามันจะปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระออกมามาก นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่าข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด เขาได้ทดลองต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันปล่อยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22%, 44% และ 53% ตามลำดับ
  3. ช่วยชะลอโรคต้อกระจก และโรคสมองเสื่อม อันเนื่องมาจากความชรา
  4. ข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก (Ferulic acid) อันเป็นคุณกับร่างกาย เมื่อข้าวโพดถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นจะยิ่งปล่อยกรดนี้มากขึ้น จากการทดลองเดียวกันพบว่า เมื่อต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้กรดเฟรุลิกถูกปล่อยออกมาเป็นปริมาณ 240%, 550% และ 900% ตามลำดับ กรดเฟรุลิกเป็นพวกพฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่างอื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผักชี


ผักชีเป็นพืชผักสวนครัว ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ตั้งแต่ส่วนของ ใบ ก้าน ราก โดยนิยมนำมาบริโภคเป็นผักสด ใช้ตกแต่งจานอาหารให้น่ารับประทาน และใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายชนิด และยังช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอม และรสชาติดีอีกด้วย

สรรพคุณ 
  • ช่วยรักษาอาการปวดท้อง และช่วยย่อยอาหาร
  • ใบสด ประกอบด้วย โปรตีน เส้นใย ฟอสฟอรัส เบต้าเคโรทีน
  • ผล หรือลูกผักชี มีน้ำมันหอมระเหย ใช้แต่งกลิ่นเหล้ายิน

สรรพคุณทางยา

ต้นและใบ
  • ผักชีใชัในการช่วยย่อยอาหาร บำรุงกระเพาะ เจริญอาหาร ขับลม ขับพิษ ขับเหงื่อ  ลดน้ำตาลในเลือด แก้โรคหัด แก้ตับอักเสบ
  • พอกทาแก้ผื่นคัน แก้ไฟลามทุ่ง 
  • ลดการปวดบวมข้อ
  • ต้มดื่มแก้ไอ แก้หวัด แก้สะอึก
  • แก้อาหารเป็นพิษ  กระตุ้นการทำงานของเลือดพลาสมา และกล้ามเนื้อ
  • มีเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  • ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และไข่ของแมลง จึงใช้ถนอมอาหาร

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผักชีฝรั่ง



ใบอ่อนและใบของผักชีฝรั่งรับประทานเป็นผักสด โดยเป็นผักแกล้มกับน้ำพริก ลาบ ยำ ก้อย หรือซอยใส่ในอาหารประเภทยำ ต้มยำ  เพื่อปรุงรสและดับกลิ่นคาวได้ ในทางการแพทย์สามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้ ใบสด เคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปาก

สรรพคุณ
  • ใบหรือทั้งต้น นำมาทาหรือพอกแก้อาการอักเสบของพิษงู แมงป่อง ตะขาบ และแมลงมีพิษกัดต่อย
  • น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากกิ่งและใบ ช่วยบำรุงหัวใจ แก้เป็นลม หน้ามืด ตาลาย

สรรพคุณทางยา

ใบและใบอ่อน 
  • ใช้เป็นยาแก้ท้องอืด
  • ใช้ดับกลิ่นปากได้ดี เพราะมีน้ำมันหอมระเหย
  • มีสารต้านมะเร็ง ทำให้สารก่อมะเร็งในยาสูบไม่ออกฤทธิ์

ลำต้น
  • นำลำต้นของผักชีฝรั่งมาตำผสมกับน้ำมันงา แล้วหมกไฟให้สุก นำมาประคบแก้ปวดเมื่อยได้ดี
  • นำลำต้นผักชีฝรั่งมาต้มกับน้ำใช้ดื่มแก้ไข้มาลาเรีย หรือใช้เป็นยาถ่าย
  • นำลำต้นผักชีฝรั่งมาตำแล้วใช้พอกแก้พิษงู ฆ่าเชื้อโรค
  • นอกจากนี้ลำต้นผักชีฝรั่งยังใช้ขับปัสสาวะ
  • ช่วยทำให้เล็บ ผม และผิวหนังแข็งแรง
  • ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานปกติ
  • ใช้ลดความดันโลหิตได้
ในแม่ที่กำลังให้นมลูก ควรให้รับประทานผักชีฝรั่ง เพื่อให้สามารถทดแทนธาตุเหล็กที่เสียไปได้ โดยใช้ทำเป็นน้ำชาดื่ม ควรดื่มวันละ 2-3 ถ้วย จะช่วยรักษาสมดุลของอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

เมล็ด
  • เมล็ดผักชีฝรั่ง นำมาใช้ทำ Gripe water สำหรับขับลมในกระเพาะได้ดี

ข้อควรระวัง สำหรับสุภาพสตรีไม่ควรใช้ในขณะตั้งครรภ์


ชื่อสามัญ : ผักชีฝรั่ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eryngium foetidum L.

ชื่อวงศ์ : Umbelliferae

ชื่ออังกฤษ :  Parsley, Sawtooth corianser, Spiny coriander, long coriander, Culantro

ชื่ออื่นๆ : ผักชีลาว, ผักหอมเทศ, ผักชีดอย, หอมป้อมกุลา(ภาคเหนือ), ผักชีใบเลื่อย, ผักหอมเป (ภาคอีสาน), หอมน้อยฮ้อ(อุตรดิตถ์), หอมป้อม, หอมป้อมเปอะ(กำแพงเพชร)

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ต้นหอม


สรรพคุณ
  • มีเบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัสในสัดส่วนที่เหมาะสม กับการดูดซึมของร่างกาย
  • มีสารเควิซิทีนที่เป็นเกราะกันมะเร็งให้กับคนเราได้
  • แก้หวัด คัดจมูก จากน้ำมันหอมระเหยในหัวหอม
  • ใช้ประกอบอาหาร แต่งกลิ่นอาหาร และใช้โรยหน้าอาหารให้สวยงาม เช่นเดียวกับผักชี

 สรรพคุณทางยา 
  • ต้นหอมส่วนใกล้ราก เรียกว่า หอมขาว ใช้เป็นยาได้ ส่วนนี้มีกลิ่นเผ็ดร้อน มีคุณลักษณะอุ่น มีสรรพคุณแก้ร้อนใน
  • ต้นหอมมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อโรคบิด เชื้อสแตปฟลิโลค๊อกคัส และเชื้อโรคผิวหนังได้
  • ต้นหอมช่วยในการขับเหงื่อและบำรุงหัวใจ
  • ถ้ากินต้นหอมสดๆ อย่างต่อเนื่องสามารถลดไขมันในเส้นเลือด ควบคุมความดันโลหิตสูง และป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  • น้ำมันในหัวหอมเป็นยาขับเสมหะ บรรเทาอาการคัดจมูก
  • ใบสดตำแล้วพอกตรงที่ถูกแมลง กัดต่อย แก้ปวดได้ชะงัด

วิธีใช้ 
  1. นำต้นหอม 5-6 ต้น ต้มกับขิง 2 แว่น กรองน้ำดื่ม ขับเหงื่อ ลดไข้
  2. อากาศหนาวเป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ให้นำหอมขาว 30 กรัม ต้มน้ำให้เดือด 10 นาที แล้วนำมากินโดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง แล้วกินโจ๊กร้อนตาม 1 ชาม นอนห่มผ้าห่ม ให้เหงื่ออก อาการจะทุเลา
  3. ใช้หอมขาว ขิงสด และน้ำตาลแดงต้มพร้อมกัน ทำเป็นยาน้ำกิน ได้ผลดียิ่ง
  4. ผู้ที่ไอเพราะโดนความเย็น ให้นำหอมขาว 15 กรัม สาลี่ 1 ผล น้ำตาล 30 กรัม ต้มดื่ม พร้อมกับกินหอมขาว และสาลี่
  5. ผู้ที่เป็นโรคอาหารไม่ย่อย ใช้หอมขาว 10 กรัมต้มน้ำแล้วดื่ม มีสรรพคุณในการช่วยให้กระเพาะอาหารแข็งแรงขึ้น
  6. ใช้แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล โดยการใช้ใบหรือหัวหอมทุบพอแตกใส่ในเหล้าขาว

ชื่อสามัญ : Green Shallot

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alliumcepa var. aggregatum

ชื่อวงศ์ : Alliaceae

ชื่ออังกฤษ : Spring Onion หรือ Green Shallot

ชื่ออื่นๆ : หอมแบ่ง, ใบหอม (ภาคเหนือ)

สะระแหน่


สะระแหน่นั้นมีสรรพคุณมากมาย ใบและลำต้นสะระแหน่มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วยสารเมนทอล (Menthol) ไลโมนีน (Limonene) นีโอเมนทอล (Neomenthol) เป็นต้น ใบสะระแหน่จึงมีคุณสมบัติในการแต่งกลิ่น แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย

นอกจากนี้สะระแหน่ยังมีสารอาหารหลายอย่าง เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 2 วิตามินซี ปัจจุบันได้สกัดสารจากสะระแหน่ไปใช้ทำลูกอมสะระแหน่ไว้ใช้อม หรือที่เรียกว่า ลูกอมมินต์

สรรพคุณ
  • เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ ขับลม ขับเหงื่อ รักษาอาการหวัดได้
  • แก้อาการ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ โดยนำน้ำที่คั้นจากต้น และใบมาใช้ดื่ม ก็จะช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
  • ดับกลิ่นปากก็ยังได้ โดยการกินสดๆ
  • การบริโภคสะระแหน่ ยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง โล่งคอ นอนหลับสบาย
  • บำรุงสายตา เนื่องจากมีวิตามินเอสูง
  • บำรุงหัวใจ ต้านมะเร็ง เพราะสะระแหน่มีเบต้าแคโรทีนสูง

สรรพคุณทางยา
  • แก้อาการปวดศีรษะ ปวดฟัน เจ็บคอ เจ็บปาก เจ็บลิ้น ให้ดื่มน้ำต้มใบสะระแหน่ 5 กรัม กับน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือเล็กน้อย วันละ 2 ครั้ง
  • แก้อาการบิดท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด ใช้ใบสะระแหน่ต้มกับน้ำดื่ม
  • แก้พิษ แมลงสัตว์กัดต่อย ทำได้โดยตำใบสะระแหน่ให้ละเอียด แล้วพอกบริเวณที่โดนกัด อย่าลืมว่าใบสะระแหน่ที่สดและอ่อน จะมีคุณค่ามากกว่าใบสะระแหน่แห้ง
  • ช่วยดับกลิ่นคาว ยอดสะระแหน่นั้นรับประทานเป็นผักสดก็ได้ หรือกินกับน้ำพริก ลาบ น้ำตก พล่า ยำ หรือแต่งกลิ่นหอม ๆ ใส่ต้มยำ ช่วยดับกลิ่นได้ดี
  • แก้อาการอาหารไม่ย่อย โดยใช้ใบสะระแหน่ต้มกับน้ำดื่ม
  • แก้หวัดน้ำมูกไหลจามไอบ่อย ๆ หรือจะเป็นไข้หวัด ใช้ใบสะระแหน่ต้มกับเต้าหู้ดื่ม
  • แก้อาการเกร็งกล้ามเนื้อ แก้ปวดบวมผื่นคัน ใช้ใบสะระแหน่ตำให้ละเอียดพอกหรือทา
  • ห้ามเลือดกำเดาได้ โดยใช้สำลีชุบน้ำที่คั้นจากใบสะระแหน่ หยอดที่รูจมูก
  • รักษาแผลในปาก ใช้ใบสะระแหน่ต้มใส่เกลือเล็กน้อยดื่ม
  • แก้อาการปวดหู โดยนำน้ำคั้นจากใบสะระแหน่หยอดหู จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดี
  • แก้อาการหน้ามืดตาลาย โดยรับประทานน้ำต้มใบสะระแหน่และขิง

ชื่อสามัญ : สะระแหน่

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Metha cordifolia Opiz.

ชื่อวงศ์ : Labiatae

ชื่ออื่น : หอมด่วน หอมเดือน (ภาคเหนือ), มักเงาะ สะแน่ (ภาคใต้), สะระแหน่สวน (ภาคกลาง), ขะแยะ (อีสาน)

ชื่ออังกฤษ : Kitchen Mint, Marsh Mint


ที่มา : http://ramaclinic.ra.mahidol.ac.th/herb/herb0021.html

โหระพา


โหระพา เป็นผักสวนครัว พืชริมรั้ว อยู่คู่ครัวไทยมาแต่ครั้งโบราณกาล รู้ไหมว่าผักพื้นบ้านธรรมดาเรานี่แหละแต่ให้คุณประโยชน์มากมาย

สรรพคุณ

  • ใบโหระพาสด มีน้ำมันหอมระเหย เช่น methyl chavicol และ linalool ขับลมแก้ท้องอืดเฟ้อ
  • ใบโหระพา้มีีธาตุแคลเซียมสูง
  • น้ำมันหอมระเหยจากใบโหระพา สามารถแต่งกลิ่นเครืองสำอางบางชนิด
  • เมล็ดโหระพาเมื่อแช่น้ำจะพองเป็นเมือก เป็นยาระบาย เนื่องจากไปเพิ่มจำนวนกากอาหาร
  • ใบโหระพาเป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรค เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง
  • ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้รับประทานเป็นผักสด หรือใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหาร

น้ำมันโหระพา

น้ำมันโหระพา เป็นน้ำมันหอมระเหย มีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติแก้จุกเสียดแน่นท้อง ช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยให้สบายท้องขึ้น มีกลิ่นหอมหวาน มีคุณสมบัติช่วยให้สงบ มีสมาธิ ลดอาการเครียด
ข้อควรระวังในการใช้คือ ทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

 สรรพคุณทางยา

ใบ
  • ใบสดของโหระพานำมาต้มดื่มแก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร มีสรรพคุณแก้ท้องอืด เฟ้อ ขับลมจากลำไส้
  • ใช้ตำพอกหรือประคบแก้ไขข้ออักเสบ แผลอักเสบ
  • ต้มใบและต้นสดเข้าด้วยกัน ต้มเอาน้ำดื่ม แก้หวัด ขับเหงื่อ
  • ถ้าเด็กปวดท้อง ใช้ใบโหระพา 20 ใบ ชงน้ำร้อนและนำมาชงนมให้เด็กดื่มแทนยาขับลมได้
  • ใบโหระพาแห้งต้มกับน้ำ มีสรรพคุณต้านเชื้อก่อโรค
เมล็ด
  • ใช้เมล็ดแห้ง นำมาต้มหรือแช่น้ำกิน เป็นยาระบาย

 ราก
  • ใช้รากสดหรือรากแห้ง นำมาเผาไฟให้เป็นเถ้า บดให้ละเอียดใช้พอก บริเวณที่เป็นแผลเรื้อรัง แผลมีหนอง

 ลำต้น
  • ใช้ลำต้นสด ประมาณ 6-10 กรัม นำมาต้มเอาน้ำ ใช้หยอดหูแก้ปวดหู
  • รักษาโรคเข่าเสื่อม โดยการนำโหระพาทั้งต้นไม่ต้องเด็ดรากทิ้ง กะพอประมาณใช้พอกเข่าได้มิด จากนั้นนำไปล้างให้สะอาด ตำพอละเอียดใส่เหล้าขาว 40 ดีกรีเล็กน้อยคนให้เข้ากัน ก่อนนำไปตั้งไฟแค่พอร้อน (ไม่ต้องถึงกับเดือด) ทิ้งไว้ให้อุ่น นำไปพอกเข่าประมาณ 10-15 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง

ชื่อสามัญ : โหระพา

ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum basilicum Linn.

ชื่อวงศ์ : Labiatae

ชื่ออื่น: กอมก้อ (ภาคเหนือและอีสาน), นางพญาร้อยชู้, โหระพาไทย, โหระพาเทศ, ห่อกวยซวย, ห่อวอซุ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ชื่อภาษาอังกฤษ: Sweet Basil, Thai Basil

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข่า

ข่า เป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า "เหง้า" อยู่ในตระกูลขิง เป็นไม้ล้มลุก เป็นพืชสมุนไพรที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารไทยมาช้านาน ส่วนที่นำมาประกอบอาหาร คือ เหง้า

สรรพคุณ
  • ลดการบีบตัวของลำไส้
  • ขับน้ำดี
  • ขับลม
  • ลดการอักเสบ
  • ยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร
  • ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
  • ฆ่าเชื้อรา
  • ทารักษากลาก เกลื้อน

 สรรพคุณทางยา 
  • บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด โดยการใช้เหง้าสด ต้มเอาน้ำดื่ม
  • ทารักษากลาก เกลื้อน โดยใช้เหง้าสดผสมเหล้าโรงทา

 วิธีการใช้ข่ารักษากลาก เกลื้อน 
  1. ใช้เหง้าสดกับเหล้าโรง หรือน้ำส้มสายชู หรือเหง้าสดตำแช่แอลกอฮอล์ทา
  2. เอาข่าปอกเปลือกนิดหน่อย จุ่มเหล้าแล้วเอามาทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน ทาแรงๆ ทำเช่นนี้ 4-5 วัน ก็จะหาย
  3. เอาหัวข่าแก่ๆ ล้างให้สะอาดฝานเป็นแว่นบางๆ หรือทุบพอแตก นำไปแช่เหล้าขาวทิ้งไว้สัก 1 คืน ทำความสะอาดขัดถูบริเวณที่เป็นเกลื้อนจนพอแดง และแสบ แล้วเอาข่าที่แช่ไว้มาทาเฉพาะที่ๆ เป็นเกลื้อน จะรู้สึกแสบๆ เย็นๆ ทาเช้าและเย็นหลังอาบน้ำทุกวัน ประมาณ 2 สัปดาห์ เกลื้อนจะจางลงและหายไปในที่สุด
  4. เอาหัวข่าล้างให้สะอาด ฝานเป็นแผ่นบางๆ นำไปแช่เหล้า 35 ดีกรี ประมาณ 5 นาที แล้วทาที่มีผื่นคัน อาการจะหายไป และถ้าแช่ค้างคืนจะใช้รักษาเกลื้อนได้ดี
  5. ใช้ข่าสดตัดท่อนละ 1 นิ้ว ทุบให้แตกพอช้ำอย่าถึงกับละเอียด ใส่ถ้วยแช่เหล้าโรงประมาณ 1/4 ถ้วยชา ใช้สำลีชุบทาวันละครั้ง
  6. ใช้หัวข่าแก่ๆ นำมาตำพอแหลก แล้วผสมเหล้าหรืออัลกอฮอล์ แช่ไว้ 1 คืน ใช้ทาแก้กลาก เกลื้อน

วิธีการใช้ข่ารักษาอาการแน่นจุกเสียด 
  1. ใช้เหง้าสด 5 กรัม หรือเหง้าแห้ง 2 กรัม ต้มกับน้ำจนเดือด รินน้ำดื่ม
  2. กวนหัวข่าแก่ตำละเอียดกับน้ำปูนใส 2 แก้ว นำมาดื่ม

ชื่อสามัญ : ข่า

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alpinia galanga (Linn.)

ชื่อวงศ์ : Zingiberaceae

ชื่ออื่นๆ : กฎุกกโรหินี (ภาคกลาง) ข่าหยวก (ภาคเหนือ) ข่าหลวง (ภาคอีสาน) สะเอเชย  หรือ เสะเออเคย (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน)

ชื่อภาษาอังกฤษ : Glalangal, Greater Galangal,Chinese Ginger

ที่มา : http://www.medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/alpinia.html

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เบต้าแคโรทีน คืออะไร?



"เบต้าแคโรทีน" (Beta-carotene) เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ (โปรวิตามินเอ) มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ทั้งนี้ โดยปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เสมือนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ(Anti-Oxidant) ด้วย

เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนเข้าไปก็จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ที่เยื่อบุผนังลำไส้ โดยเบต้าแคโรทีน 6 ไมโครกรัม จะได้วิตามินเอ 1 ไมโครกรัม

เบต้าแคโรทีนมีในพืชสีเหลืองและสีส้ม ทั้งแครอท ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุก และผักที่มีสีเขียวอย่างบร็อกโคลี่ มะระ ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักตำลึง  ต้นหอม โหระพา สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผักชี เป็นต้น (เหตุที่มีสีเขียวเพราะสีของเบต้าแคโรทีนถูกสีเขียวของคลอโรฟิลล์บดบังไว้)

ประโยชน์ที่เบต้าแคโรทีนให้แก่ร่างกาย 
  1. ดูแลรักษาผิวพรรณให้ผ่องใส ไม่เหี่ยวย่น 
  2. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง อนุมูลอิสระมีผลเกี่ยวข้องกับมะเร็งโดยตรง การลดปริมาณอนุมูลอิสระ คือ เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกายเท่ากับลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง
  3. บำรุงสุขภาพสายตา เบต้าแคโรทีนเมื่อถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอแล้ว ร่างกายจะนำไปใช้สร้างสารโรดอฟซินในดวงตาส่วนเรตินา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้ และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย 
  4. ชะลอความแก่ เบต้าแคโรทีนให้ผลในการลดความเสื่อมของเซลล์จากอนุมุลอิสระ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกระบวนการแก่

การได้รับสารเบต้าแคโรทีนมากเกินไป มีผลเสียต่อร่างกายหรือไม่ ?

เนื่องจาก สารเบต้าแคโรทีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ที่เมื่อร่างกายได้รับมากกว่าความต้องการ จะหันไปทำหน้าที่ในทางตรงกับข้าม โดยกลายตัวเป็น “Pro-Oxidant” ซึ่งเป็นสารที่ส่งเสริม “การเกิด” อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็ง

หากเรารับสารต้านอนุมูลอิสระจากการกินอาหารโดยปกติ โอกาสที่จะได้รับสารนี้มากเกินความต้องการของร่ายกาย จะน้อยกว่าการกิน “อาหารเสริมเบต้าแคโรทีน” โดยตรง เพราะอาหารเสริมจะมีสารนี้สูงมาก เนื่องจากอยู่ในรูปของสารเข้มข้น ดังนั้น ถ้าเราไม่ต้องการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไป การกินอาหารปกติที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ข้อควรระวัง

การบริโภคเบต้าแคโรทีนในรูปแบบของอาหารเสริมที่มากเกินไป อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

กระชาย



กระชายเหลือง มีลำต้นใต้ดินเรียกเหง้า มีรากทรงกระบอกปลายแหลมจำนวนมากรวมติดอยู่ที่เหง้าเป็นกระจุก มีกลิ่นหอม นิยมใช้แต่งรสชาติอาหาร เช่น ใส่ในผัดเผ็ด แกง ที่ใช้เนื้อสัตว์เพื่อดับกลิ่นคาว หรือใช้เป็นเครื่องปรุงเพิ่มความหอม เช่น ใส่ในน้ำยาของขนมจีนน้ำยา แกงป่า กระชายมี 3 ประเภท คือ กระชายดำ กระชายแดง กระชายเหลือง ที่ใช้ประกอบอาหารคือ กระชายเหลือง

สรรพคุณ

หมอยาพื้นบ้านในประเทศไทยใช้เหง้าและรากของกระชายแก้ปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด แก้โรคกระเพาะ รักษาแผลในปาก แก้ตกขาว กลาก เกลื้อน ใช้เมื่อมีอาการปวดข้อเข่า ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง และใช้บำบัดโรคกามตายด้าน

สรรพคุณทางยา
  1. แก้ปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ  แก้ลมจุกเสียด
    • น้ำมันหอมระเหยของกระชายมีฤทธิ์บรรเทาอาการหดตัว ของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อของระบบทางเดินอาหาร
    • สารสกัดกระชายมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย E. coli ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแน่นจุกเสียด
    • สาร cineole ในกระชายมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ จึงลดอาการปวดเกร็ง
  2. แก้โรคกระเพาะ
    • สารสกัดจากรากกระชาย มีฤทธิ์ต้านการเจริญของแบคทีเรียกรัมลบ ชื่อ Helicobacter pylori ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร
    • สารสกัดจากรากกระชายนอกจากจะฆ่าเชื้อสาเหตุของโรคกระเพาะอาหารแล้ว ยัง มีฤทธิ์ลดการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  3. แก้ตกขาว กลาก เกลื้อน
    • สาร pinostrobin ที่สกัดจากกระชายมีฤทธิ์ต้านการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรคกลาก 3 ชนิด คือ Trichophyton mentagrophytes, Microsporum gypseum และ Epidermophyton floccosum
    • สารสกัดจากกระชาย มีฤทธิ์ต้านการเจริญของเชื้อ Candida albican ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตกขาว
  4. เป็นยาอายุวัฒนะ รากกระชายมีสาร pinostrobin มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุจากการอักเสบเรื้อรังในร่างกายได้ ทำให้ร่างกายแข็งแรงดีไม่มีโรคหลอดเลือดแข็งตัว ระบบประสาททำงานได้อย่างดี ปราศจากโรคเบาหวาน โรคข้อเข่าเสื่อม โรคมะเร็ง และตับทำงานกำจัดสารพิษได้ดี จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
  5. เป็นอาหารเสริมป้องกันการเกิดมะเร็ง
    • สาร pinostrobin จากกระชายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ที่ใช้กำจัดสารพิษในตับ
    • สาร pinostrobin จากกระชายมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ topoisomerase I ในกระบวนการเพิ่มจำนวนเซลล์มะเร็ง
    • สาร pinostrobin จากกระชายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งของมนุษย์
  6. บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน หรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED)เนื่องจากสาร cardamonin และ alpinetin จากกระชาย มีฤทธิ์คลายผนังหลอดเลือดแดงมีเซ็นเทอริก (mesenteric arteries) 
  7. ฤทธิ์ต้านจุลชีพสารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากกระชายมีฤทธิ์ต้านการเจริญของพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาอย่างมากกับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำตกปลาช่อนทอด


น้ำตกปลาช่อนทอด หรือบางคนอาจจะเรียกว่า ปลาช่อนทอดน้ำตก คือ อาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะเครื่องปรุงต่างๆ นั้น มีสรรพคุณยอดเยี่ยม ทั้ง แก้หวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ลดอาการจุกเสียด ท้องแน่นเฟ้อ ขับลม ป้องกันมะเร็ง ลดคอเลสเตอรอล เสริมธาตุเหล็ก บำรุงไต เจริญอาหาร

สำหรับคนที่ชื่นชอบการทานอาหารอีสาน เช่น ลาบหมู หมูน้ำตก ลองทานน้ำตกปลาช่อนทอด ดูสักนิด เพราะเป็นอาหารที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยมตามที่กล่าวมา หรืออาจจะเรียกได้ว่า อาหารครบเครื่องเรื่องสมุนไพรจริงๆ

ถ้าคุณคิดว่าปลาช่อน 1 ตัว มากเกินไป สามารถดัดแปลงโดยใช้ปลาช่อนทอดเป็นชิ้นได้ แล้วลดทอนสัดส่วนเครื่องปรุงลงตามส่วน

เครื่องปรุง
  • ปลาช่อนขอดเกล็ด ล้วงเอาไส้ออกแล้ว 1 ตัว
  • ผักชีซอย  1/4  ถ้วยตวง
  • ผักชีฝรั่งซอย  1/4  ถ้วยตวง
  • ต้นหอมซอย  1/4  ถ้วยตวง
  • หอมแดงซอย  1/4  ถ้วยตวง
  • ใบสะระแหน่ เด็ดเอาแต่ใบ  1/4  ถ้วยตวง
  • ใบโหระพา เด็ดเอาแต่ใบ ไว้แต่งหน้า
  • พริกขี้หนูแห้งทอดกรอบสำหรับแต่งหน้า
  • น้ำปลา  4  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว  3  ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น  1  ช้อนโต๊ะ
  • ข้าวคั่ว  2  ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

เคล็ดลับการทอดปลาช่อน
  • กะทะใส่น้ำมันพอให้ท่วมปลา ตั้งไฟให้ร้อน แล้วราไฟลงให้ร้อนปานกลาง
  • ปลาช่อนล้างให้สะอาด บั้งทั้ง 2 ด้าน นำไปทอดในน้ำมัน นานประมาณ 10 นาที ไม่ต้องกลับด้าน
  • พอด้านล่างสุกจนเหลืองกรอบแล้ว ค่อยพลิกอีกด้านลงล่าง ทอดต่อประมาณ 5 นาที
  • สุกแล้ว ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
วิธีทำ 
  • ผสมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดเข้าด้วยกัน (ยกเว้นใบสะระแหน่  ใบโหระพา และพริกขี้หนูแห้ง) ชิมดูรสตามชอบ
  • จัดปลาที่ทอดเสร็จแล้วใส่จาน
  • ราดน้ำปรุงรสที่ผสมให้เข้ากันดีแล้ว บนตัวปลา
  • แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่ ใบโหระพา พริกขี้หนูแห้ง
  • เรียงผักกะหล่ำ แตงกวา ถั่วฝักยาว ไว้ข้างจาน

สรรพคุณ

ปลา น้ำมันในปลา มีสรรพคุณแก้ปวดหัว  บรรเทาอาการโรคไขข้ออักเสบ
ต้นหอม ทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง บรรเทาอาการโรคหอบหืด บำรุงไต บำรุงสายตา เสริมสมรรถภาพทางเพศ
พริก บรรเทาอาการไอ จาม เจริญอาหาร ช่วยการดูดซึมอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย
ผักชี ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้เด็กเป็นผื่นแดง
สะระแหน่ ช่วยขับลมในลำไส้และกระเพาะ แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาอาการปวดหัว ดมแก้ลม
โหระพา ใบมีกลิ่นฉุน แก้ลมวิงเวียน แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น จุกเสียด ขับลมในลำไส้
ขับเสมหะ
กะหล่ำปลี ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ลดการอักเสบจากแผลในกระเพาะอาหาร
แตงกวา ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น ยืดหยุ่น ขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ
ถั่วฝักยาว ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี ช่วยระบบขับถ่ายทำงานปกติ
หอมแดง ต้านเชื้อหวัด แก้ไข้หัวลม
มะนาว แก้เลือดออกตามไรฟัน และถ่ายพยาธิ เป็นยาแก้กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาตุเจริญอาหาร




วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

สารอาหารเพื่อการเพิ่มจำนวนสเปิร์ม

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสเปิร์ม และ ไข่กันก่อน

ตัวสเปิร์มหรือสเปิร์ม (sperm) ในน้ำเชื้อผู้ชาย (semen) ทำหน้าที่คล้าย “เรือดำน้ำ” สเปิร์มที่ดีต้องมีส่วนหัวและหางครบ ว่ายน้ำไปข้างหน้าได้ดี ไม่ตีรวน เช่น ว่ายเป็นวงกลม  (พายเรือในอ่าง ไม่ไปไหน) ฯลฯ 
ไข่ของผู้หญิง (ovum) ที่รอสเปิร์ม (sperm) หรือเรือดำน้ำที่ดำไปได้เร็วที่สุด ถึงไข่ก่อน และทะลุทะลวงเปลือกไข่ได้ก่อน
ปกติสเปิร์มนับร้อยๆ ล้านตัวจะมีเพียงตัวเดียวที่ทะลุด่านนี้ไปได้
อ.ดร.เจม เมนดิโอลา และคณะ แห่งสถาบันเบอร์นาเบา สเปน ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้ชายสเปน 61 คนที่มีปัญหามีลูกยาก

ผลการศึกษาพบว่า 

  •  ผู้ชายที่กินเนื้อผ่านกระบวนการผลิต เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ฯลฯ มีน้ำเชื้อคุณภาพต่ำ
  •  ตรงกันข้ามกับผู้ชายที่กินผลไม้ทั้งผล (หรือน้ำผลไม้ปั่นรวมกาก ไม่ใช่น้ำผลไม้กรอง) ผัก และนมไม่มีไขมัน (nonfat milk) จะมีน้ำเชื้อคุณภาพดี
กลไกที่อาจจะเป็นไปได้ คือ
  1. ผัก ผลไม้ทั้งผล จะมีสารต้านอนุมูลอิสระ สูง ซึ่งอาจจะช่วยป้องกันสเปิร์มจากการบาดเจ็บ หรือ ชอกช้ำ
    หมายเหตุ : สารต้านอนุมูลอิสระ มักพบมากที่ เปลือก หรือ บริเวณใกล้เปลือก และจะเกาะกับเส้นใยมากกว่าลอยอยู่ในน้ำ จากการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า ผู้ชายที่มีสเปิร์มคุณภาพสูงกินสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, ไลโคพีน (lycopene - สารสีแดง พบในแตงโม น้ำมะเขือเทศ และผักผลไม้ที่มีสีแดง) มากกว่าผู้ชายที่มีสเปิร์มคุณภาพต่ำ
  2. การกินเนื้อสัตว์ทำให้ร่างกายมีโอกาสได้รับสารเคมีที่ใช้กระตุ้นการเจริญเติบโตของสัตว์ เช่น ฮอร์โมนสเตอรอยด์ หรือสารเคมีที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง (estrogen-like effects)

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับโรคมะเร็ง

AFTER YEARS OF TELLING PEOPLE CHEMOTHERAPY IS THE ONLY WAY TO TRY AND ELIMINATE CANCER, JOHNS HOPKINS IS FINALLY STARTING TO TELL YOU THERE IS AN ALTERNATIVE WAY .

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

Cancer Update from Johns Hopkins

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

1. Every person has cancer cells in the body. These cancer cells do not show up in the standard tests until they have multiplied to a few billion. When doctors tell cancer patients that there are no more cancer cells in their bodies after treatment, it just means the tests are unable to detect the cancer cells because they have not reached the detectable size.

ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. Cancer cells occur between 6 to more than 10 times in a person's lifetime.

เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. When the person's immune system is strong the cancer cells will be destroyed and prevented from multiplying and forming tumours.

เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. When a person has cancer it indicates the person has multiple nutritional deficiencies. These could be due to genetic, environmental, food and lifestyle factors.

เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

การทดลองใช้เห็ดหลินจือรักษาโรคไต

คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิจัยนำเห็ดหลินจือมารักษาไตเรื้อรัง ระบุเห็ดหลินจือช่วยฟื้นฟูการทำงานของไต ทางเลือกใหม่แทนกินยากดภูมิคุ้มกัน แพทย์จุฬาฯศึกษากลไกการเกิดภาวะไตวายในร่างกาย พร้อมสร้างทางเลือกใหม่รักษาโรคไตเรื้อรังด้วยสารสกัดเห็ดหลินจือ เผยผลทดสอบเบื้องต้นช่วยผู้ป่วยกลับสู่ภาวะปกติ ระบุสรรพคุณสร้างสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการไตอักเสบ ภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพระบบไหลเวียนโลหิตและเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของไต

รศ.พญ.ดร.นริสา ฟูตระกูล ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมวิจัยค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเนฟโฟรสิส ชนิด focal segmental sclerosis ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์ โดยเปลี่ยนให้รับประทานสารสกัดจากเห็ดหลินจือวันละ 750 - 1,000 มิลลิกรัม ควบคู่กับการให้ยาขยายหลอดเลือด พบว่า ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานของไตให้ดีขึ้น อีกทั้งภาวะเนื้อไตตายลดลงอย่างชัดเจน

หลังจากทำวิจัยแล้วพบว่า สาเหตุมาจากสารพิษในเลือด สารอนุมูลอิสระ และการเสียสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้สารซัยโตคายน์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเซลล์บุผิวหลอดเลือด ทำให้เกิดการหดรัดตัวของหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น จนเกิดความดันภายในไตเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ไตเกิดภาวะขาดเลือด เกิดเนื้อไตตายได้

โรคไตวาย

โรคไตวาย คือ ภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ

ปกติไตจะทำหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกทางปัสสาวะ ดังนั้น ภาวะไตวายก็คือ ภาวะที่ไตจะไม่สามารถขับของเสียรวมทั้งเกลือแร่ต่างๆ ออกมาทางปัสสาวะได้ ของเสียเหล่านั้นก็จะคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือด ไตจะทำหน้าที่กรองเลือดที่มาเลี้ยงไตและนำของเสียและน้ำส่วนเกิน กรองและขับออกมาเป็นปัสสาวะ ไตเป็นอวัยวะที่ทำงานหนักมากและไม่มีเวลาพักผ่อน โดยจะรับเลือดจากหัวใจในปริมาณถึงร้อยละ 20 หรือเท่ากับหนึ่งในห้าของเลือดที่บีบตัวออกจากหัวใจแต่ละครั้ง รวมปริมาณเลือดถึงประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1,400 ลิตร และนำมากรองขับออกมาเป็นปัสสาวะประมาณวันละ 1-2 ลิตรเท่านั้น

ภาวะไตวายโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
  1. ไตวายเฉียบพลัน
  2. ไตวายเรื้อรัง

กระชายเหลือง

กระชายเหลือง หรือ กระชายแกง
กระชายเหลือง หรือ กระชายแกง

สรรพคุณ

รากและเหง้ากระชาย มีน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารไพนีน แคมฟีน เมอร์ซีน ไลโมนีน บอร์นีออลและการบูร รากและเหง้าของกระชายมีรสเผ็ดร้อนขม หมอยาพื้นบ้านในประเทศไทยใช้รากและเหง้าของกระชายแก้ปวดมวนในท้อง แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด แก้โรคกระเพาะ รักษาแผลในปาก แก้ตกขาว กลาก เกลื้อน ใช้เมื่อมีอาการปวดข้อเข่า ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง และใช้บำบัดโรคกามตายด้านอีกด้วย

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ศูนย์ไตเทียม ภาคใต้

รายชื่อโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ไตเทียม ภาคใต้

ราษฎร์ยินดี
Phone : 074-200214, 074-200216
Fax :
เขต: อ.หาดใหญ่ สงขลา
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

ศูนย์ไตเทียมภูเก็ต
Phone :
Fax :
เขต: อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลสิริโรจน์
Phone : 076-249400, 076-361888
Fax : 076-361800
เขต: อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
Phone :
Fax :
เขต: อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช
Phone :
Fax :
เขต : อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลทุ่งสง
Phone :
Fax :
เขต : จังหวัดนครศรีธรรมราช
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
Phone :
Fax :
เขต : จังหวัดชุมพร
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลพังงา
Phone :
Fax :
เขต : จังหวัดพังงา
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลตะกั่วป่า
Phone :
Fax :
เขต :
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
Phone :
Fax :
เขต :
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลกระบี่
Phone :
Fax :
เขต :
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลระนอง
Phone :
Fax :
เขต :
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลนครินทร์
Phone : 0-7531-2800-15 ต่อ 322
Fax : 0-7531-2800
เขต : 61 ถ. อ้อมค่ายวชิราวุธ ต. ท่าวัง อ. เมือง จ. นครศรีธรรมราช
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง

ศูนย์ไตเทียม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รายชื่อโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ไตเทียม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

รพ. ศรีนครินทร์
Phone : 043 - 363526
Fax :
เขต : มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ : -

ศูนย์ไตเทียม นอร์ท อีสเทอร์น
Phone : 042-241031-3
Fax : 042-241956
เขต : หนองคาย
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ : -

พิสัยเวช
Phone : 042-405821-3 , 042-405828
Fax : 042-405824
เขต : อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ : -

เอกชนบุรีรัมย์
Phone : 044-614100-7,044-625340-9 ต่อ 2272,2273
สายตรง : 044-621212
เขต : อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ : เฉียบพลัน 3,000 บาท/ครั้ง เรื้อรัง 2,000 บาท/ครั้ง

อุบลรักษ์ ธนบุรี
Phone : 045-260285, 260300
Fax : -
เขต : อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
จำนวนเครื่อง : -
ราคาค่าบริการ : -




ศูนย์ไตเทียม ภาคตะวันออก

รายชื่อโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ไตเทียม ภาคตะวันออก


เมืองฉะเชิงเทรา
Phone: 038-814375-8 ต่อ 1243
Fax: 038-511633
เขต: อ.เมือง ฉะเชิงเทรา
จำนวนเครื่อง : 10
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

โสรราเวช
Phone: 038-812613
Fax: -
เขต: ต.หน้าเมือง อ.เมือง ฉะเชิงเทรา
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000

จุฬารัตน์บางปะกง
Phone: 035-535548-9
Fax: -
เขต: อ.บางปะกง ฉะเชิงเทรา
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: ครั้งแรก 2,500 บาท/ครั้ง ครั้งต่อไป 1,800 บาท

บางคล้า
Phone: 038-541009
Fax: 038-541578
เขต: อ.บางคล้า ฉะเชิงเทรา
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง เบิกได้ 2,500 บาท/ครั้ง

ชลบุรี
Phone: 038-274200-6 ต่อ 381-2
Fax: 038-797188
เขต: อ.เมือง ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 11
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง ไม่รวมอุปกรณ์

สมเด็จพระบรม
Phone: 038-322157-9 ต่อ 1182
Fax: 038-311009
เขต: อ.ศรีราชา ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 13
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

สมิติเวช ศรีราชา
Phone: 038-324100
Fax: 038-324123
เขต: อ.ศรีราชา ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 8
ราคาค่าบริการ: 2,400 บาท/ครั้ง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริ
Phone: 038-245735-69 ต่อ 3194
Fax: 038-245773
เขต: อ.สัตหีบ ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 14
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

กรุงเทพพัทยา
Phone: 038-427777
Fax: --
เขต: อ.บางละมุง ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,200 บาท/ครั้ง

ชลเวช
Phone: 038-254354-5
Fax: 038-271990
เขต: อ.เมือง ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง

เอกชล
Phone: 038-273840 ต่อ 3208-9
Fax: 038-797188
เขต: อ.เมือง ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 8
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง

พญาไท ศรีราชา
Phone: 038-770200-8 ต่อ 2207-8
Fax: 038-770213
เขต: อ.ศรีราชา ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 8
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

ศูนย์วิทยาศาสตร์
Phone: 038-390324,390580 ต่อ 804-5
Fax: -
เขต: อ.เมือง ชลบุรี
จำนวนเครื่อง : 8
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

กรุงเทพจันทบุรี
Phone: 039-351467-70
Fax: 039-321202
เขต: อ.เมือง จันทบุรี
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

สิริเวช
Phone: 039-344244,344339 ต่อ1140
Fax: 039-322995
เขต: อ.เมือง จันทบุรี
จำนวนเครื่อง : 5
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง

ระยอง
Phone: 038-860737,611104 ต่อ 3420
Fax: 038-860737
เขต: อ.เมือง ระยอง
จำนวนเครื่อง : 7
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

มงกุฎระยอง
Phone: 038-691806
Fax: -
เขต: อ.เมือง ระยอง
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

คลินิกแพทย์สุชาดา
Phone: 038-800171,01-5555501
Fax: -
เขต: อ.เมือง ระยอง
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง พิจารณาลด 10% บางกรณี

รวมแพทย์ระยอง
Phone: 038-860890-3
Fax: 038-361279
เขต: อ.เมือง ระยอง
จำนวนเครื่อง : 9
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

กรุงเทพระยอง
Phone: 038-427777
Fax: 038-610777
เขต: อ.เมือง ระยอง
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,200 บาท/ครั้ง

ตราด
Phone: 039-511040-1 ต่อ231
Fax: 039-520214
เขต: อ.เมือง ตราด
จำนวนเครื่อง : 5
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง

กรุงเทพตราด
Phone: 039-532735
Fax: -
เขต: อ.เมือง ตราด
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: ปกติ 2,000 บาท/ครั้ง ฉุกเฉินต้องเปิดตัวกรองใหม่ 3,500 บาท/ครั้ง ตัวกรองเก่า 3,000 บาท/ครั้ง

เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
Phone: 037-211088 ต่อ2302
Fax: 037-211243
เขต: อ.เมือง ปราจีนบุรี
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก ชมรมเพื่อนโรคไต

ศูนย์ไตเทียม ภาคเหนือ

รายชื่อโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ไตเทียม ภาคเหนือ


โอเวอร์บรุ๊ค
Phone: 053-711366 ,744882
Fax: 053-716755
เขต: อ.เืมือง เชียงราย
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,100 บาท/ครั้ง

เทพปัญญา
Phone: 053-852590-9 ต่อ 2304
Fax: 053-853088
เขต: อ.เมือง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 1,890  บาท/ครั้ง

เชียงใหม่คลีนิคโรคไต
Phone: 053-214509,223481
Fax: 053-218497
เขต: ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 40
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง

แมคคอร์มิค
Phone: 053-262200-19 ต่อ 348,240
Fax: 053-241177
เขต: เมือง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: เฉียบพลัน 2,750 บาท/ครั้ง เรื้อรัง 2,000 บาท/ครั้ง ประกันสังคม 1,800 บาท/ครั้ง

นพเกล้าคลินิกเวชกรรม
Phone: 053-121705, 089-7555184
Fax: 081-8823754
เขต: อ.แม่ริม เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 9
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง

นครพิงค์
Phone: 053-890-755 ต่อ 158
Fax: -
เขต: อ.แม่ริม เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 5
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

เชียงใหม่ ราม
Phone: 053-224861 ต่อ 2700
Fax: 053-224880
เขต: - เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 3,500 บาท/ครั้ง

นครเชียงใหม่ไตเทียม
Phone: 053-243489
Fax: 053-266214
เขต: อ.เมือง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง

สันป่าตอง
Phone: 053-355334-8,311-404
Fax: 053-311712
เขต: อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

ราชเวช เชียงใหม่
Phone: 053-801999 ต่อ312
Fax: 053-801440
เขต: เมือง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 1,500 -1,800 บาท/ครั้ง

จอมทอง
Phone: 053-412189 ต่อ 1221
Fax: 053-341521
เขต: อ.จอมทอง เชียงใหม่
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

พุทธชินราช พิษณุโลก
Phone: 055-219844 ต่อ 1880
Fax: -
เขต: อ.เมือง พิษณุโลก
จำนวนเครื่อง : 10
ราคาค่าบริการ: 2,200 บาท/ครัง ไม่รวมอุปกรณ์

ค่ายสมเด็จพระนเรศวร
Phone: 055-282-823
Fax: 055-245-070-9
เขต: เมือง พิษณุโลก
จำนวนเครื่อง : 10
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

พิษณุเวช
Phone: 055-219941
Fax: 055-252754
เขต: อ.เมือง พิษณุโลก
จำนวนเครื่อง : 5
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

อินเตอร์เวชการ
Phone: 055-218-777,055-217800
Fax: 055-245-678
เขต: อ.เมือง พิษณุโลก
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

รัตนเวช
Phone: 055-212-222 ต่อ 2205
Fax: 055-245-956
เขต: อ.เมือง พิษณุโลก
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: ครั้งแรก 2,500 บาท/ครั้ง  ครั้งต่อไป 2,000 บาท/ครั้ง ฉุกเฉิน 3,000 บาท/ครั้ง

ร่มฉัตร
Phone: 056-312-481-90
Fax: 056-228-015
เขต: อ.เมือง นครสวรรค์
จำนวนเครื่อง : 1
ราคาค่าบริการ: 2,300 บาท/ครั้ง

รวมแพทย์นครสวรรค์
Phone: 056-223-600,223-750
Fax: 056-225-912
เขต: อ.เมือง นครสวรรค์
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: 1,700 - 2,000 บาท/ครั้ง

ศรีสวรรค์
Phone: 056-311-626 ต่อ 8226
Fax: 056-222-388
เขต: อ.เมือง นครสวรรค์
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 2,500-4,000 บาท/ครั้ง  กรณีฉุกเฉินนอกเวลาเพิ่มอีก 500 บาท

พะเยา
Phone: 054-410-503-11 ต่อ 1522
Fax: 054-481-708
เขต: อ.เมือง พะเยา
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: เบิกได้ 2,500 บาท/ครั้ง เบิกไม่ได้ 1,500 บาท/ครั้ง

พะเยา ราม
Phone: 054-4111-1115
Fax: -
เขต: อ.เมือง พะเยา
จำนวนเครื่อง : 10
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท

แพร่ราม
Phone: 054-522-911-3 ต่อ 205,140
Fax: 054-530-007
เขต: อ.เมือง แพร่
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

แพร่คริสเตียน
Phone: 054-511-017,053-81-999 ต่อ 312
Fax: 053-801-440
เขต: อ.เมือง จ.แพร่
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท

ค่ายสุริยพงษ์
Phone: 056-721-812-3 ต่อ 102
Fax: 056-721-505
เขต: อ.เมือง น่าน
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

เพชรบูรณ์
Phone: 056-712-235-9
Fax: 056-722-027
เขต: ต.ในเมือง อ.เมือง เพชรบูรณ์
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: ใช้สิทธิเบิกจากต้นสังกัด 1,800 บาท/ครั้ง ประกันสังคม , ชำระเงินเอง 1,500 บาท/ครั้ง

ค่ายพ่อขุนผาเมือง
Phone: 056-721-812-3 ต่อ 102
Fax: 056-721-505
เขต: อ.เมือง เพชรบูรณ์
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท

เขลางค์นคร-ราม
Phone: 054-225-100 ต่อ 3006
Fax: 054-225-105
เขต: เมือง ลำปาง
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

ลำปาง
Phone: 054-223-623-7 ต่อ 8655
Fax: 054-226-126
เขต: - ลำปาง
จำนวนเครื่อง : 7
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง

แวนต์แซนต์วูร์ด
Phone: 054-217-700 ต่อ 14,054-225-088
Fax: 054-222-671
เขต: เมือง ลำปาง
จำนวนเครื่อง : 3
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง

ลำพูน
Phone: 053-510020-22
Fax: 053-510023
เขต: อ.เมือง ลำพูน
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง ไม่รวมค่าตัวกรอง

หริภุญชัย เมโมเรียล
Phone: 053-581600-5 ต่อ1209
Fax: 053-581499
เขต: อ.เมือง ลำพูน
จำนวนเครื่อง : 2
ราคาค่าบริการ: 2,000 - 3,500 บาท/ครั้ง

สุโขทัย
Phone: 055-611782 ต่อ 1207
Fax: 056-610588
เขต: อ.เมือง สุโขทัย
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง ยกเว้นค่า Lap และค่าตรวจ พิเศษ 2,300 บาท/ครั้ง

สมเด็จพระเจ้าตากสิน
Phone: 055-511-024 ต่อ 1134
Fax: 055-513-037
เขต: อ.เมือง ตาก
จำนวนเครื่อง : 4
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง

แม่สอด
Phone: 055-531-224 , 531229 ต่อ 278
Fax: 055-533-046
เขต: อ.แม่สอด ตาก
จำนวนเครื่อง : 5
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง

อุตรดิตถ์
Phone: 055-411064 ต่อ 335,439
Fax: 055-411064
เขต: อ.เมือง อุตรดิตถ์
จำนวนเครื่อง : 6
ราคาค่าบริการ: 2,000 - 2,200 บาท/ครั้ง

โรงพยาบาลบางมูลนาก
Phone: 056-631131
Fax:
เขต: ถ. บางมูลนาก – โพทะเล จ.พิจิตร
จำนวนเครื่อง :
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง


ขอบคุณข้อมูลจาก ชมรมเพื่อนโรคไต

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ศูนย์ไตเทียม ภาคกลาง

รายชื่อโรงพยาบาล หรือ ศูนย์ไตเทียม ภาคกลาง

สนามจันทร์
Phone: 034-219600
Fax: 034-217817
เขต: อ.เมือง นครปฐม
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

มะการักษ์
Phone: 034-541859
Fax: 034-542035 ต่อ 503
เขต: อ.ท่ามะกา กาญจนบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

ราชบุรี
Phone: 032-327999 ต่อ 1154,1545
Fax: 032-321825
เขต: อ.เมือง ราชบุรี
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 10 เครื่อง

ดำเนินสะดวก
Phone: 032-246000-15 ต่อ 405
Fax: 032-246020
เขต: อ.ดพเนินสะดวก ราชบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

เมืองราช
Phone: 032-322274-80 ต่อ 215,231
Fax: 032-322237
เขต: ต.หน้าเมือง อ.เมือง ราชบุรี
ราคาค่าบริการ: 1,850 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

แม่กลอง 2
Phone: 034-715001-5
Fax: -
เขต: ต. แม่กลอง อ.เมือง สมุทรสงคราม
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 1 เครื่อง

พระจอมเกล้าเพชรบุรี
Phone: 031-401251 ต่อ 294
Fax: 032-425205
เขต: - เพชรบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,300 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

เมืองเพชร-ธนบุรี
Phone: 01-6387740
Fax: 032-400609
เขต: อ.เมือง เพชรบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

ธนกาญจน์
Phone: 034-622366 ต่อ 220
Fax: 034-622806
เขต: อ.เมือง กาญจนบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

เมตตาประชารักษ์
Phone: 034-325458-68 ต่อ 1107-8
Fax: 034 325470
เขต: อ.สามพราน นครปฐม
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท
จำนวน : 9 เครื่อง

บ้านโป่ง
Phone: 032-222840-6 ต่อ 136
Fax: 032-211766
เขต: อ.บ้านโป่ง ราชบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

โพธาราม
Phone: 032-355300-15 ต่อ 487
Fax: 032-233594
เขต: อ.โพธาราม ราชบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

ซานคามิลโล
Phone: 032-211143,210691-95
Fax: 032-201256
เขต: ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง ราชบุรีี
ราคาค่าบริการ: 1,900 บาท/ครั้ง
จำนวน : 2 เครื่อง

สมุทรสาคร
Phone: 034-427099
Fax: -
เขต: ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 8 เครื่อง

เพชรรัชต์
Phone: 032-41707-9
Fax: 032-411689
เขต: อ.เมือง เพชรบุรี
ราคาค่าบริการ: ไตวายเรื้อรัง 2,000 บาท/ครั้ง เฉียบพลัน 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

ประจวบคีรีขันธ์
Phone: 032-601060-4 ต่อ 3123
Fax: 032-611079
เขต: อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์
ราคาค่าบริการ: 2,300 บาท/ครั้ง
จำนวน : 3 เครื่อง

ซานเปาโล หัวหิน
Phone: 032-5322584-5
Fax: 032-532584
เขต: อ.หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
ราคาค่าบริการ: 2,300 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

บ้านหมี่
Phone: 036-472051-6 ต่อ 533-4
Fax: 036-471580
เขต: อ.บ้านหมี่ ลพบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

อานันทมหิดล
Phone: 01-8266333
Fax: 036-627751
เขต: อ.เมือง ลพบุรี
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

ศุภมิตรเสนา
Phone: 035-289572-82
Fax: 035-289583
เขต: อ.เสนา พระนครศรีอยุธยา
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 2 เครื่อง

วิภาวดี-ปิยะราษฎร์
Phone: 035-564555 ต่อ 1204
Fax: 035-552665
เขต: อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 3 เครื่อง

มิตรภาพเมโมเรียล
Phone: 036-220576-85 ต่อ 1309
Fax: 036-222197
เขต: อ.เมือง สระบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,100 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 3 เครื่อง

ราชธานี
Phone: 035-335555
Fax: -
เขต: อ.พระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา
ราคาค่าบริการ: 2,,000 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 5 เครื่อง

สมเด็จพระยุพราช
Phone: 037-243018-20 ต่อ 120
Fax: 037-242531
เขต: ต.สระแก้ว อ.เมือง สระแก้ว
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

รวมแพทย์ชัยนาท
Phone: 056-413017
Fax: 056-412019
เขต: อ.เมือง ชัยนาท
ราคาค่าบริการ: 2,200 บาท/ครั้ง กรณีเฉียบพลัน 3,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 6 เครื่อง

สิงห์บุรีเวชการ
Phone: 036-5225559
Fax: 036-512784
เขต: ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง สิงห์บุรี
ราคาค่าบริการ: ประกันสังคม 2,000 ทั่วไป 2,000 (รวมค่าตัวกรองแล้ว)
จำนวนเครื่อง: 3 เครื่อง

รพ.ศูนย์การแพทย์
Phone: 037-395085 ต่อ 10728-9
Fax: 037-395274
เขต: 62ม.7 ถ.รังสิต-นครนายก นครนายก
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครือง

ค่ายธนะรัชต์
Phone: 032-621702 ต่อ 54558
Fax: 07-88140012
เขต: อ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 3 เครื่อง

เมืองนารายณ์
Phone: 036-616300
Fax: -
เขต: อ.เมือง ลพบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

ศุภมิตร
Phone: 035-500283-8 ต่อ 2201
Fax: 035-522144
เขต: อ.เมือง สุพรรบุรี
ราคาค่าบริการ ครั้งแรก 3,000 บาท/ครั้ง ครั้งต่อไป 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

สมเด็จพระสังฆราช
Phone: 035-531077
Fax: 035-531189
เขต: อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 7 เครื่อง

เกษมราษฎร์ สระบุรี
Phone: 036-315555-93
Fax: 036-315501
เขต: อ.เมือง สระบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,100 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 6 เครื่อง

พระพุทธบาท
Phone: 036-323291
Fax: -
เขต: อ.พระทุทธบาท สระบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 5 เครื่อง

พระนครศรีอยุธยา
Phone: 035-322555
Fax: 035-242182
เขต: อ.พระนครศรีอยุธยา พระนครศรีอยุธยา
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

เสนา
Phone: 035-217118 ต่อ 362
Fax: 035-217117
เขต: อ.เสนา พระนครศรีอยุธยา
ราคาค่าบริการ: ผู้ป่วยเบิกได้ 2,500 บาท/ครั้ง ประกันสังคม 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 6 เครื่อง

ชัยนาท
Phone: 056-411055 ต่อ 127
Fax: 056-411071
เขต: อ.เมือง ชัยนาท
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 8 เครื่อง

สิงห์บุรี
Phone: 056-413017
Fax: 056-412019
เขต: อ.เมือง สิงห์บุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 6 เครื่อง

พรชัย
Phone: 035-514444,503531
Fax: 035-503432
เขต: อ.เมือง สุพรรณบุรี
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวนเครื่อง: 4 เครื่อง

ศูนย์ไตเทียมกรุงเทพมหานคร

รายชื่อศูนย์ไตเทียม เขตกรุงเทพมหานคร

รพ.รามาธิบดี
Phone: 02-2011697
Fax: 02-2011400
เขต: ราชเทวี กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 - 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 15 เครื่อง

คลินิกเวชกรรม วีแคร์
Phone: 02-5144140,025142273-5
Fax: 02-5383606
เขต: วังทองหลาง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

คลินิกเจริญนคร7
เขต: คลองสาน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 3 เครื่อง

ศูนย์ไตเทียม
Phone: 02-2271308-10
Fax: 02-6671307
เขต: - บำรุงราษฎร์ 33 สุขุมวิท ซ.3 สุขุมวิท
ราคาค่าบริการ: 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 24 เครื่อง

ประดิพัทธไตเทียม
Phone: 02-6157700-1
Fax: -
เขต: พญาไท กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

เดชา
Phone: 02-2460137
Fax: -
เขต: ราชเทวี กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

ราษฎร์บูรณะ
Phone: 02-4270175-9 ต่อ 1502
Fax: -
เขต: ต.บางปะกอก อ.ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 - 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 10 เครื่อง

ลาดพร้าว
Phone: 02-9322929,02-5302388
Fax: -
เขต: วังทองหลาง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 - 3,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

เวชธานี
Phone: 02-5216112-8 ต่อ 5020
Fax: -
เขต: บางกะปิ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์
Phone: 02-2443482-84
Fax: -
เขต: ดุสิต กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง ไม่รวมค่าตัวกรองเลิอดและสายส่ง
จำนวน : 12 เครื่อง

รพ. ศิริราช
Phone: 02-4197484-6
Fax: -
เขต: บางกอกน้อย กรุงเพทฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 24 เครื่อง

ศรีวิชัย 1
Phone: 02-4120056-60
Fax: -
เขต: เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 - 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 3 เครื่อง

ศูนย์การแพทย์
Phone: 02-9547057
Fax: -
เขต: หลักสี่ กรุงเทพ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

กรุงเทพคริสเตียน
Phone: 02-6340560-79 ต่อ 2907
Fax: 02-2362911
เขต: บางรัก กรุงเำทพ
ราคาค่าบริการ: ครั้งแรก 2,600 บาท/ครั้ง
ครั้งต่อไป 2,200บาท/ครั้ง
นอกเวลา 3,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

กล้วยน้ำไท
Phone: 02-3812006-20 ต่อ503
Fax: 02-3812769
เขต: ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท /ครั้ง ผู้ป่วยทั่วไป 1,700 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

เกษมราษฎร์ บางแค
Phone: 02-8048959,4540033
Fax: 02-4541914
เขต: บางแค กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง ฉุกเฉิน 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

กรุณาพิทักษ์
Phone: 02-28739974-6
Fax: 02-2864788
เขต: ยานนาวา กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

คลองตัน
Phone: 02-3192101
Fax: 02-3185637
เขต: ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

เจริญกรุงประชารักษ์
Phone: 02-2891153-5 ต่อ 6406
Fax: 02-2891480
เขต: บางคอแหลม กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

ชีวาเวช คลินิก
Phone: 02-3820420-2
Fax: 02-3820423
เขต: วัฒนา กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครัง
จำนวน : 4 เครื่อง

เซนต์หลุยส์
Phone: 02-6755000, 6759300
Fax: 02-6755200
เขต: สาทร กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: ครั้งแรก 3,500 บาท/ครั้ง ประกันสังคม 1,800 บาท/ครั้ง ทั่วไป 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 12 เครื่อง

รพ.ตำรวจ
Phone: 02-6525310
Fax: 02-6525310
เขต: ปทุมวัน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

เทพธารินทร์
Phone: 02-2402727
Fax: 02-22498774
เขต: คลองเตย กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

นพรัตนราชธานี
Phone: 02-5174270-9 ต่อ 1347
Fax: ต่อ 1345
เขต: คันนายาว กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง ไม่รวมตัวกรองเลือด
จำนวน : 5 เครื่อง

สถานพยาบาลนันอา
Phone: 02-4370270-1
Fax: 02-4395104
เขต: คลองสาน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

รพ.บางไผ่
Phone: 02-4570086 ไตเทียม 02-8031895
Fax: -
เขต: ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

บางโพ
Phone: 02-5870136,5216112-8 ต่อ302
Fax: -
เขต: บางซื่อ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

บางกอก 9
Phone: 02-8771111 ต่อ1341-2
Fax: -
เขต: จอมทอง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 - 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

เปาโล เมโมเรียล
Phone: 02-2797000 ต่อ 4217
Fax: 02-2790394
เขต: พญาไท กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,200 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

พญาไท 1
Phone: 02-6401111 ต่อ 2120
Fax: 02-2455488
เขต: ราชเทวี กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,500 - 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 16 เครื่อง

พญาไท 3
Phone: 02-8691111 ต่อ 3502-4
Fax: 02-8691155
เขต: ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: ประกันสังคม 2,000 บาท/ครั้ง ผู้ป่วยทั่วไป 2,200 บาท/ครั้ง
จำนวน : 19 เครื่อง

แพทย์ปัญญา
Phone: 02-7198548
Fax: -
เขต: สวนหลวง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: เหมาจ่าย 1,700 บาท/ครั้ง ฉุกเฉิน 3,000 บาท/ครัง
จำนวน : 8 เครื่อง

พระรามเก้า
Phone: 02-2029999 ต่อ2460
Fax: -
เขต: ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 3,000 - 3,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 12 เครื่อง

ภูมิพลอดุลยเดช
Phone: 02-5347284,9946092
Fax: 02-9746092
เขต: สายไหม กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 10 เครื่อง

มเหสักข์
Phone: 02-6357123 ต่อ 303
Fax: 02-6357099
เขต: สีลม กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: ฟอกครั้งแรก 2,500 บาท/ครั้ง ฟอกประจำ 1,800 บาท/ครั้ง ฟอกไม่ประจำ 3,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 6 เครื่อง

มิตรภาพวงเวียนใหญ่
Phone: 02-6755000
Fax: -
เขต: คลองสาน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,650 บาท/ครั้ง
จำนวน : 3 เครื่อง

มิตรไตเทียม
Phone: 02-466 5031 ต่อ 37
Fax: -
เขต: ธนบุรี กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,800 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

ยันฮี
Phone: 02-8790300 ต่อ 1301
Fax: 02-8790395
เขต: บางพลัด กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

คลินิกไตเทียม
Phone: 02-3994585
Fax: 02-3994586
เขต: ประเวศ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,510 บาท/ครั้ง
จำนวน : 4 เครื่อง

คลินิกศรีรัตนโกสินทร
Phone: 02-437 9678
Fax: 02-437 9678
เขต: คลองสาน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

คลินิกสุรวงศ์เวชกรรม
Phone: 02-23444450
Fax: -
เขต: บางรัก กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,700 บาท/ครั้ง
จำนวน : 2 เครื่อง

ราชวิถี
Phone: 02-3548108-37 ต่อ2403,2405
Fax: 02-3548188
เขต: ราชเทวี กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 - 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 12 เครื่อง

ดีเอ็นพี ไตเทียม
Phone: 081-817 0362
Fax: -
เขต: ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: ตั้งอยู่่ใน รพ. รามาสุขสวัสดิ์

รามคำแหง
Phone: 02-3740200 ต่อ 1311 , 1303
Fax: -
เขต: บางกะปิ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,500 , 2,800 และ 3,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

เลิดสิน
Phone: 02-3539798-99 ต่อ 2698
Fax: 02-3539621
เขต: บางรัก กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 7 เครื่อง

วิภาวดี
Phone: 02-9412800
Fax: 02-5611466
เขต: จตุจักร กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,900 บาท/ครั้ง
จำนวน : 8 เครื่อง

วิภาราม
Phone: 02-7222500 ต่อ 2324
Fax: 02-7222445
เขต: สวนหลวง กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,900 บาท/ครั้ง
จำนวน : 8 เครื่อง

ศิครินทร์
Phone: 02-3834400-13 ต่อ 238
Fax: 02-7105386
เขต: บางนา กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: ครั้งแรก 3,500 บาท/ครั้ง ครั้งต่อไป 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : 12 เครื่อง

คลินิกเวชกรรม
Phone: 02-521-6112-8
Fax: -
เขต: บางกอกน้อย กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 5 เครื่อง

คลินิกศูนย์แพทย์พัฒน
Phone: 02-3196863
Fax: 02-3199366
เขต: วังทองหลาง กรุงเทพ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 24 เครื่อง

ศูุนย์ไตเทียมราชวัตร
Phone: 02-6681200-7
Fax: -
เขต: ดุสิต กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 1,500 บาท/ครั้ง
จำนวน : 9 เครื่อง

ศูุนย์ไตเทียมเจริญนคร
Phone: 02-4381272, 02-4381275
Fax: -
เขต: คลองสาน กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: - บาท/ครั้ง
จำนวน : - เครื่อง

ศูุนย์ไตเทียมโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
Phone: 02-574-5000-9 ต่อ 8900,8913
Fax: 02-574-4856
เขต: ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ราคาค่าบริการ: 2,000 บาท/ครั้ง
จำนวน : - เครื่อง

รายชื่อโรงพยาบาลฟอกไต ศูนย์ไตเทียม

ผู้เขียนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับโรงพยาบาลที่จะเอ่ยชื่อต่อไปในบทความนี้ และมิได้รับค่าจ้างโฆษณาจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเหล่านี้แต่อย่างใด เพียงแต่อยากจะรวบรวมรายชื่อโรงพยาบาล สถานพยาบาลที่มีเครื่องฟอกไตในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงเพื่อเป็นกุศลทาน หากท่านมีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ที่จำเป็นต้องฟอกไต จะได้ใช้บล็อกนี้ให้เป็นประโยชน์

สาเหตุและอาการของโรคไต คลิกอ่าน
เครื่องฟอกไต หรือ ไตเทียม ทำงานอย่างไร คลิกอ่าน

รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) กรุงเทพมหานคร คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) ภาคกลาง คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) ภาคเหนือ คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) ภาคตะวันออก คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม (ฟอกไต) ภาคใต้ คลิก
รายชื่อศูนย์ไตเทียม  ฟอกไตฟรี คลิก

สมุนไพรรักษาโรคไต คลิก

วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สมุนไพรรักษาโรคไต

โรคไตกับสมุนไพรนั้นต้องแยกระหว่างสมุนไพรบำรุงไตกับสมุนไพรขับปัสสาวะแล้วแต่จุดประสงค์ในการใช้ว่าต้องการบำรุงไตหรือขับปัสสาวะ

สมุนไพรบำรุงไต ได้แก่ กระชายเหลืองหรือกระชายแกง ซังข้าวโพด ไหมข้าวโพด เห็ดหลินจือ ลูกหม่อน ถั่วเหลืองและหญ้าใต้ใบ เห็ดหลินจือจะช่วยได้ดีสำหรับกรณีไตวาย

เห็ดหลินจือ
กระชายเหลือง / กระชายแกง

 สมุนไพรขับปัสสาวะ ได้แก่ หญ้าหนวดแมว ตะไคร้


หญ้าหนวดแมว

ตะไคร้


วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แกงจืดกระเจี๊ยบเขียวสอดไส้

เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคเบาหวานและคลอเลสเตอรอลสูง









กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวมีสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการคือ มีคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน โฟเลท แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี ๑ วิตามินบี ๒ ไนอาซิน วิตามินซี อยู่ปริมาณพอสมควร แต่บทบาททางสุขภาพที่สำคัญของกระเจี๊ยบเขียวเกิดจาการที่กระเจี๊ยบเขียวมีกลูตาไทโอน (glutathione) ซึ่งถือว่าเป็นราชาของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี และยังร่ำรวยใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนของพืชผักที่ร่างกายย่อยไม่ได้และเส้นใยที่ละลายน้ำได้ เพคทิน (pectin) และเมือก (mucilage) ซึ่งเกิดจากสารประกอบ acetylated acidic polysaccharide และกรดกาแลคทูโลนิค (galactulonic acid) ดังนั้น การกินกระเจี๊ยบเขียวจึงช่วยระบบขับถ่าย ระบบดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงโรคแผลในกระเพาะอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ดังรายละเอียดที่จะกล่าวต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ตะคริว...เกิดจากสาเหตุใด

ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาเท่านั้นที่มักเป็นตะคริวที่น่อง หรือที่กล้ามเนื้อต้นขา บางคนมักเป็นตะคริวตอนกลางคืน ซึ่งเจ็บปวดทรมานจนทำให้รบกวนการนอนหลับ

สาเหตุของตะคริว อาจเกิดจากการเสียเหงื่อมากจนทำให้ร่างกายต้องการแมกนีเซียม โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์หรือเกิดจากร่างกายต้องทำงานหนัก (ออกกำลังกาย) และมีความเครียดสะสมมานาน นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากร่างกายสูญเสียเกลือแร่ ซึ่งเกิดจากการกินยาบางชนิด อาเจียน หรือท้องเสียเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ หรือโรคเบาหวานก็สามารถทำให้ร่างกายขาดแมกนีเซียมได้ แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือ การกินอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ ซากๆ การไดเอ็ท และการขาดน้ำ

  • สูญเสียเหงื่อมากกับการออกกำลังกาย จำเป็นต้องให้ร่างกายมีความสมดุลเมื่อสูญเสียน้ำและเกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม จึงต้องเติมน้ำและเกลือแร่ให้แก่ร่างกาย ที่สำคัญคือร่างกายควรได้รับแมกนีเซียมวันละประมาณ 300 มิลลิกรัม
  • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ เล่นเทนนิส ไม่ขาดแมกนีเซียมแต่มักเป็นตะคริว ก็ต้องถามว่าดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่ เพราะเมื่อมีเหงื่อออกร่างกายก็จะสูญเสียทั้งน้ำและเกลือแร่ อาจทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ ส่งผลให้เป็นตะคริว จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยที่สุดวันละประมาณ 1.5 ลิตร หากออกกำลังกายก็ให้ใส่เกลือลงไปในน้ำเล็กน้อย (มีโซเดียม) หากออกกำลังกายมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ก็เป็นไปได้ว่าตะคริวเกิดจากการขาดแมกนีเซียมและโซเดียม

กินกล้วยช่วยป้องกันตะคริวได้ไหม? กล้วยมีสาระสำคัญๆ มากมาย เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม แต่มันต้องใช้เวลานานกว่าจะดูดซึมเข้าเส้นเลือด หากเกิดตะคริวก็ต้องรีบช่วยตัวเองอย่างเร่งด่วน วิธีที่ดีที่สุดคือ ยืดเหยียด นวด และประคบร้อนบริเวณที่เป็นตะคริว

กล้ามเนื้อเป็นตะคริวบ่อยควรไปพบแพทย์ไหม? หากเป็นตะคริวบ่อยและเกิดขึ้นเกือบทุกเวลาก็ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากโรคบางชนิดหรือหากมีคนในครอบครัวเป็นตะคริวก็อาจเกิดจากพันธุกรรม

ป้องกันตะคริวได้อย่างไร? เราควรบริหารเท้าทุกวัน ยืดเหยียดและบริหารกล้ามเนื้อน่องและเท้า นวดและประคบร้อนหรือเย็น ทดลองดูว่าแบบใดได้ผลดีกับคุณ หลายคนที่เป็นตะคริวมักใช้หมอนวางใต้เข่าเวลานอนและรู้สึกดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากล้ามเนื้อจะต้องได้รับการยืดเหยียดอย่างเร่งด่วน

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

สมุนไพรแก้ท้องผูก

ท้องผูกเป็นอาการที่ไม่ขับถ่ายอุจจาระตามปกติ หรือถ่ายลำบาก อุจจาระแข็ง โดยในคนปกติการขับถ่ายอาจจะแตกต่างกันได้บ้าง เช่น บางคน ขับถ่ายวันละครั้ง บางคน 2 วัน/ครั้ง คนที่มีอาการท้องผูก จะมีอาการคลื่นไส้เล็กน้อย ไม่สบายท้อง หรืออึดอัด แน่นท้อง

ผลเสียของอาการท้องผูก

อุจจาระแข็งขับถ่ายยาก ทำให้อุจจาระไปครูดกับผนังทวารหนักเกิดเป็นแผล กดหลอดเลือดดำโป่งพองออก ทำให้เกิดเป็นริดสีดวงทวารได้ และอาจเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าของเสียที่ตกค้างในลำไส้ จะทำให้เกิดอาการ หอบหืด หรืออาการผื่นแพ้ทั้งหลาย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสิว ฝ้า หน้าตาหมองคล้ำ การป้องกันอาการท้องผูกทำได้โดย กินผักผลไม้สดให้มากขึ้น และดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายพอสมควร และเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่าย ฝึกนั่งขับถ่ายทุกๆวัน

ท้องผูกเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายๆ คน ที่สำคัญมักเป็นเรื้อรัง วันนี้เรามีสมุนไพรไทยที่บรรเทาอาการท้องผูกได้ และสามารถหาและทำรับประทานได้เองอย่างง่ายๆ

1.ขิง เป็นผักพื้นบ้านที่เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบรัดตัวได้ดี

จาก Happy Life

วิธีทำน้ำขิง

เลือกขิงไม่แก่จัด ไม่อ่อนจัด ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่น สัก 3-4 แว่น ต้มกับน้ำ 1.5 ถ้วย เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1 ถ้วย ดื่มจนหมดถ้วย แล้วเข้านอน

พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆ ลุกขึ้นมาเอ็กเซอร์ไซส์เสียหน่อย หากทำอย่างต่อเนื่องปัญหาท้องผูกจะค่อยๆ หมดไปค่ะ

2.ขี้เหล็ก


  • ตำรายาไทยใช้ดอกเป็นยานอนหลับ ลดความดันโลหิต

  • ดอกตูมและใบอ่อนเป็นยาระบาย ใบอ่อนและแก่นมีสารกลุ่มแอนทราควิโนนหลายชนิด จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบาย

  • ใบแก้ระดูขาว แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ

  • แก่นแก้ไข้ ทำให้นอนหลับ รักษากามโรค

วิธีใช้
ใช้ใบอ่อนครั้งละ 2-3 กำมือ ต้มกับน้ำ 1-1.5 ถ้วย เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนอาหารเช้าครั้งเดียว
นอกจากนี้ในใบอ่อนและดอกตูมยังพบสารซึ่งมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางทำให้นอนหลับโดยใช้วิธีดองเหล้าดื่มก่อนนอน

3.ชุมเห็ดเทศ

จาก Happy Life

  • ใบตำทาแก้กลากเกลื้อน โรคผิวหนัง

  • ดอกและใบต้มรับประทานแก้อาการท้องผูก มีสาร แอนทราควิโนน กลัยโคซายด์ หลายชนิด ได้แก่ emodin, aloe - emodin และ rhein ใช้เป็นยาระบายกระตุ้นลำไส้ใหญ่ให้บีบตัว

  • การทดลองในสัตว์ และคน พบว่า ใบแก่มีฤทธิ์ น้อยกว่าใบอ่อน นอกจากนี้น้ำจากใบ ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย

4.มะขาม

จาก Happy Life
  • ยอดอ่อนและฝักอ่อนมีวิตามิน เอ มาก มะขามเปียกรสเปรี้ยว ทำให้ชุ่มคอ ลดความร้อนของร่างกายได้ดี

  • เนื้อในฝักมะขามที่แก่จัด เรียกว่า "มะขามเปียก" ประกอบด้วยกรดอินทรีย์หลายตัว เช่น กรดทาร์ททาร์ริค กรดซิตริค เป็นต้น ทำให้ออกฤทธิ์ ระบายและลดความร้อนของร่างกายลงได้ แพทย์ไทยเชื่อว่า รสเปรี้ยวนี้จะกัดเสมหะให้ละลายได้ด้วย

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารบรรเทาโรค

พืชผักที่กินเป็นอาหารประจําวันนั้น นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกาย ช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง

1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด
น้ำมันจากปลามีสรรพคุณปองกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิงจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง

2. แพ้ละออง แพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว

3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจํา
สารในชาเขียว ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจํา
สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาท ทําให้นอนหลับฝันดี

5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทําให้หลอดลมปลอดโปร่ง

6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่
ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง )
น้ำมันปลาทําให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง

7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง
กล้วยทําให้ไม่ท้องผูก และขิงทําให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป

8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว)
กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้

9.โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพด
ช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้

10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด
ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้

11. ความจําเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ
ซึ่งในเนื้อหอยมีสารสังกะสี ช่วยบํารุงสมองได้ดี

12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทําให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง
กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย

13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง

14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รําข้าว และกะหล่ำปลี จะช่วยป้องกันได้ดี
โดยเฉพาะรําข้าว กะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม

ข้อสําคัญ อย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต

15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว
มีวิตามินเออยู่มาก จะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน

16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี
ซึ่งมีสารเคมีช่วยทําให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลําไส้เล็ก หายขาดได้

17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก
ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้อง เมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงาน ทุเลาลง

18. เส้นเลือดตีบ กินผล อโวคาโด
แก้ได้เพราะไขมันดี “โมโรอันแซตเทอเรต“ ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทําลายไขมันเลว “ คลอเลสเตอรอล “ ได้

19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่าย
พืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมีทําให้ระดับความดันเลือดลดลง

20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโคลี่ และถั่วลิสง
ซึ่งมีอินซูลิน ทําให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้