วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

ตะคริว...เกิดจากสาเหตุใด

ไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาเท่านั้นที่มักเป็นตะคริวที่น่อง หรือที่กล้ามเนื้อต้นขา บางคนมักเป็นตะคริวตอนกลางคืน ซึ่งเจ็บปวดทรมานจนทำให้รบกวนการนอนหลับ

สาเหตุของตะคริว อาจเกิดจากการเสียเหงื่อมากจนทำให้ร่างกายต้องการแมกนีเซียม โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์หรือเกิดจากร่างกายต้องทำงานหนัก (ออกกำลังกาย) และมีความเครียดสะสมมานาน นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากร่างกายสูญเสียเกลือแร่ ซึ่งเกิดจากการกินยาบางชนิด อาเจียน หรือท้องเสียเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ หรือโรคเบาหวานก็สามารถทำให้ร่างกายขาดแมกนีเซียมได้ แต่สาเหตุที่พบบ่อยคือ การกินอาหารชนิดเดียวซ้ำๆ ซากๆ การไดเอ็ท และการขาดน้ำ

  • สูญเสียเหงื่อมากกับการออกกำลังกาย จำเป็นต้องให้ร่างกายมีความสมดุลเมื่อสูญเสียน้ำและเกลือแร่ เช่น แมกนีเซียม จึงต้องเติมน้ำและเกลือแร่ให้แก่ร่างกาย ที่สำคัญคือร่างกายควรได้รับแมกนีเซียมวันละประมาณ 300 มิลลิกรัม
  • ดื่มน้ำไม่เพียงพอ เล่นเทนนิส ไม่ขาดแมกนีเซียมแต่มักเป็นตะคริว ก็ต้องถามว่าดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่ เพราะเมื่อมีเหงื่อออกร่างกายก็จะสูญเสียทั้งน้ำและเกลือแร่ อาจทำให้เซลล์กล้ามเนื้อขาดน้ำ ส่งผลให้เป็นตะคริว จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยที่สุดวันละประมาณ 1.5 ลิตร หากออกกำลังกายก็ให้ใส่เกลือลงไปในน้ำเล็กน้อย (มีโซเดียม) หากออกกำลังกายมากกว่าหนึ่งชั่วโมง ก็เป็นไปได้ว่าตะคริวเกิดจากการขาดแมกนีเซียมและโซเดียม

กินกล้วยช่วยป้องกันตะคริวได้ไหม? กล้วยมีสาระสำคัญๆ มากมาย เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม แต่มันต้องใช้เวลานานกว่าจะดูดซึมเข้าเส้นเลือด หากเกิดตะคริวก็ต้องรีบช่วยตัวเองอย่างเร่งด่วน วิธีที่ดีที่สุดคือ ยืดเหยียด นวด และประคบร้อนบริเวณที่เป็นตะคริว

กล้ามเนื้อเป็นตะคริวบ่อยควรไปพบแพทย์ไหม? หากเป็นตะคริวบ่อยและเกิดขึ้นเกือบทุกเวลาก็ควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากโรคบางชนิดหรือหากมีคนในครอบครัวเป็นตะคริวก็อาจเกิดจากพันธุกรรม

ป้องกันตะคริวได้อย่างไร? เราควรบริหารเท้าทุกวัน ยืดเหยียดและบริหารกล้ามเนื้อน่องและเท้า นวดและประคบร้อนหรือเย็น ทดลองดูว่าแบบใดได้ผลดีกับคุณ หลายคนที่เป็นตะคริวมักใช้หมอนวางใต้เข่าเวลานอนและรู้สึกดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากล้ามเนื้อจะต้องได้รับการยืดเหยียดอย่างเร่งด่วน

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

สมุนไพรแก้ท้องผูก

ท้องผูกเป็นอาการที่ไม่ขับถ่ายอุจจาระตามปกติ หรือถ่ายลำบาก อุจจาระแข็ง โดยในคนปกติการขับถ่ายอาจจะแตกต่างกันได้บ้าง เช่น บางคน ขับถ่ายวันละครั้ง บางคน 2 วัน/ครั้ง คนที่มีอาการท้องผูก จะมีอาการคลื่นไส้เล็กน้อย ไม่สบายท้อง หรืออึดอัด แน่นท้อง

ผลเสียของอาการท้องผูก

อุจจาระแข็งขับถ่ายยาก ทำให้อุจจาระไปครูดกับผนังทวารหนักเกิดเป็นแผล กดหลอดเลือดดำโป่งพองออก ทำให้เกิดเป็นริดสีดวงทวารได้ และอาจเกิดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าของเสียที่ตกค้างในลำไส้ จะทำให้เกิดอาการ หอบหืด หรืออาการผื่นแพ้ทั้งหลาย นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสิว ฝ้า หน้าตาหมองคล้ำ การป้องกันอาการท้องผูกทำได้โดย กินผักผลไม้สดให้มากขึ้น และดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายพอสมควร และเปลี่ยนพฤติกรรมการขับถ่าย ฝึกนั่งขับถ่ายทุกๆวัน

ท้องผูกเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายๆ คน ที่สำคัญมักเป็นเรื้อรัง วันนี้เรามีสมุนไพรไทยที่บรรเทาอาการท้องผูกได้ และสามารถหาและทำรับประทานได้เองอย่างง่ายๆ

1.ขิง เป็นผักพื้นบ้านที่เป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบรัดตัวได้ดี

จาก Happy Life

วิธีทำน้ำขิง

เลือกขิงไม่แก่จัด ไม่อ่อนจัด ปอกเปลือก ล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่น สัก 3-4 แว่น ต้มกับน้ำ 1.5 ถ้วย เคี่ยวจนเหลือน้ำ 1 ถ้วย ดื่มจนหมดถ้วย แล้วเข้านอน

พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆ ลุกขึ้นมาเอ็กเซอร์ไซส์เสียหน่อย หากทำอย่างต่อเนื่องปัญหาท้องผูกจะค่อยๆ หมดไปค่ะ

2.ขี้เหล็ก


  • ตำรายาไทยใช้ดอกเป็นยานอนหลับ ลดความดันโลหิต

  • ดอกตูมและใบอ่อนเป็นยาระบาย ใบอ่อนและแก่นมีสารกลุ่มแอนทราควิโนนหลายชนิด จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบาย

  • ใบแก้ระดูขาว แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ

  • แก่นแก้ไข้ ทำให้นอนหลับ รักษากามโรค

วิธีใช้
ใช้ใบอ่อนครั้งละ 2-3 กำมือ ต้มกับน้ำ 1-1.5 ถ้วย เติมเกลือเล็กน้อย ดื่มก่อนอาหารเช้าครั้งเดียว
นอกจากนี้ในใบอ่อนและดอกตูมยังพบสารซึ่งมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางทำให้นอนหลับโดยใช้วิธีดองเหล้าดื่มก่อนนอน

3.ชุมเห็ดเทศ

จาก Happy Life

  • ใบตำทาแก้กลากเกลื้อน โรคผิวหนัง

  • ดอกและใบต้มรับประทานแก้อาการท้องผูก มีสาร แอนทราควิโนน กลัยโคซายด์ หลายชนิด ได้แก่ emodin, aloe - emodin และ rhein ใช้เป็นยาระบายกระตุ้นลำไส้ใหญ่ให้บีบตัว

  • การทดลองในสัตว์ และคน พบว่า ใบแก่มีฤทธิ์ น้อยกว่าใบอ่อน นอกจากนี้น้ำจากใบ ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย

4.มะขาม

จาก Happy Life
  • ยอดอ่อนและฝักอ่อนมีวิตามิน เอ มาก มะขามเปียกรสเปรี้ยว ทำให้ชุ่มคอ ลดความร้อนของร่างกายได้ดี

  • เนื้อในฝักมะขามที่แก่จัด เรียกว่า "มะขามเปียก" ประกอบด้วยกรดอินทรีย์หลายตัว เช่น กรดทาร์ททาร์ริค กรดซิตริค เป็นต้น ทำให้ออกฤทธิ์ ระบายและลดความร้อนของร่างกายลงได้ แพทย์ไทยเชื่อว่า รสเปรี้ยวนี้จะกัดเสมหะให้ละลายได้ด้วย