วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผักชีฝรั่ง



ใบอ่อนและใบของผักชีฝรั่งรับประทานเป็นผักสด โดยเป็นผักแกล้มกับน้ำพริก ลาบ ยำ ก้อย หรือซอยใส่ในอาหารประเภทยำ ต้มยำ  เพื่อปรุงรสและดับกลิ่นคาวได้ ในทางการแพทย์สามารถใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้ ใบสด เคี้ยวเพื่อดับกลิ่นปาก

สรรพคุณ
  • ใบหรือทั้งต้น นำมาทาหรือพอกแก้อาการอักเสบของพิษงู แมงป่อง ตะขาบ และแมลงมีพิษกัดต่อย
  • น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากกิ่งและใบ ช่วยบำรุงหัวใจ แก้เป็นลม หน้ามืด ตาลาย

สรรพคุณทางยา

ใบและใบอ่อน 
  • ใช้เป็นยาแก้ท้องอืด
  • ใช้ดับกลิ่นปากได้ดี เพราะมีน้ำมันหอมระเหย
  • มีสารต้านมะเร็ง ทำให้สารก่อมะเร็งในยาสูบไม่ออกฤทธิ์

ลำต้น
  • นำลำต้นของผักชีฝรั่งมาตำผสมกับน้ำมันงา แล้วหมกไฟให้สุก นำมาประคบแก้ปวดเมื่อยได้ดี
  • นำลำต้นผักชีฝรั่งมาต้มกับน้ำใช้ดื่มแก้ไข้มาลาเรีย หรือใช้เป็นยาถ่าย
  • นำลำต้นผักชีฝรั่งมาตำแล้วใช้พอกแก้พิษงู ฆ่าเชื้อโรค
  • นอกจากนี้ลำต้นผักชีฝรั่งยังใช้ขับปัสสาวะ
  • ช่วยทำให้เล็บ ผม และผิวหนังแข็งแรง
  • ช่วยให้ต่อมไทรอยด์ทำงานปกติ
  • ใช้ลดความดันโลหิตได้
ในแม่ที่กำลังให้นมลูก ควรให้รับประทานผักชีฝรั่ง เพื่อให้สามารถทดแทนธาตุเหล็กที่เสียไปได้ โดยใช้ทำเป็นน้ำชาดื่ม ควรดื่มวันละ 2-3 ถ้วย จะช่วยรักษาสมดุลของอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

เมล็ด
  • เมล็ดผักชีฝรั่ง นำมาใช้ทำ Gripe water สำหรับขับลมในกระเพาะได้ดี

ข้อควรระวัง สำหรับสุภาพสตรีไม่ควรใช้ในขณะตั้งครรภ์


ชื่อสามัญ : ผักชีฝรั่ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Eryngium foetidum L.

ชื่อวงศ์ : Umbelliferae

ชื่ออังกฤษ :  Parsley, Sawtooth corianser, Spiny coriander, long coriander, Culantro

ชื่ออื่นๆ : ผักชีลาว, ผักหอมเทศ, ผักชีดอย, หอมป้อมกุลา(ภาคเหนือ), ผักชีใบเลื่อย, ผักหอมเป (ภาคอีสาน), หอมน้อยฮ้อ(อุตรดิตถ์), หอมป้อม, หอมป้อมเปอะ(กำแพงเพชร)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น