โรคกรดไหลย้อน ไม่ได้เป็นโรคแปลกใหม่สำหรับคนไทย เป็นโรคที่พบมานานแล้ว เป็นภาวะที่น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหารอย่างผิดปกติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ หลอดอาหารส่วนปลายมีการคลายตัวอย่างผิดปกติ ความดันของหูรูดส่วนปลายหลอดอาหารต่ำกว่าปกติ หรือเกิดจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร รวมถึงพันธุกรรมอีกด้วย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเป็นโรคนี้
เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคที่หันไปใช้ชีวิตแบบชาวตะวันตก ตื่นเช้ามาก็เร่งรีบไปทำงาน ไม่ค่อยกินข้าว กินแต่กาแฟ แถมยังชอบกินอาหารเย็นหนักๆ แล้วก็นอน อาหารจึงยังตกค้างอยู่ในกระเพาะ ร่างกายต้องหลั่งกรดออกมาย่อยอาหารที่ยังตกค้างอยู่ ประกอบกับท่านอนไม่ถูกต้อง หัวเสมอหรือต่ำกว่าลำตัว ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมาที่ลำคอ เกิดอาการแสบระคายเคืองขึ้นมาบนคอ
ลักษณะของโรค มักเรื้อรังหรือเป็นหายๆ และถ้าปล่อยให้หลอดอาหารส่วนปลายระคายเคืองไปนานๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร ซึ่งนำไปสู่มะเร็งหลอดอาหารได้ในที่สุด
กินอยู่อย่างไทย ปลอดภัย ไร้โรคา สมุนไพรไทย ทรงคุณค่าทางภูมิปัญญา ป้องกันโรค รักษาโรค ร่วมกันสืบทอดภูมิปัญญาไทย
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554
8 โรคยอดฮิตสำหรับคนทำงาน
โรคยอดฮิตสำหรับคนทำงาน มีอยู่ด้วยกัน 8 โรค ซึ่งเราจะทราบอาการได้จากสัญญาณเตือนของแต่ละโรคและควรพบแพทย์เพื่อรักษาดังนี้
1. โรคความดันโลหิตสูง จะเริ่มมีเสียงดังหวิว ๆ หรือหึ่ง ๆ ในหูหรือได้ยินเสียงชีพจรในศีรษะตัวเอง เวียนศีรษะ โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนอิริยาบถ มีอาการใจสั่นบ่อย หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ขาบวม หงุดหงิด เหนื่อยและเพลียง่าย
2. โรคหลอดเลือดสมอง ไม่มีสัญญาณเตือน โดยเกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะมีการอุดตันของเส้นเลือดที่นำอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้สมองเสียหายทำงานไม่ได้
3. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของไทย หากใครที่มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับหรือจุกแน่นลึก ๆ บริเวณใต้กระดูกหน้าอกหรือหน้าอกซ้าย ซึ่งมักเกิดขณะเดินเร็ว ยกของหนักหรือวิ่งหรือเมื่อรู้สึกเครียด
4. โรคกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่อาการเตือนจะรู้สึกปวดท้องเมื่อกินอาหารเข้าไปประมาณ 30 นาทีถึง 3 ชั่วโมงหรือบางครั้งรับประทานอาหารก็จะรู้สึกปวดท้องทันทีทันใด โดยจะเป็นก่อนหรือหลังรับประทานอาหารก็ได้รวมทั้งมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยด้วย
1. โรคความดันโลหิตสูง จะเริ่มมีเสียงดังหวิว ๆ หรือหึ่ง ๆ ในหูหรือได้ยินเสียงชีพจรในศีรษะตัวเอง เวียนศีรษะ โดยเฉพาะตอนเปลี่ยนอิริยาบถ มีอาการใจสั่นบ่อย หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ขาบวม หงุดหงิด เหนื่อยและเพลียง่าย
2. โรคหลอดเลือดสมอง ไม่มีสัญญาณเตือน โดยเกิดจากภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะมีการอุดตันของเส้นเลือดที่นำอาหาร และออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้สมองเสียหายทำงานไม่ได้
3. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน โรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของไทย หากใครที่มีอาการเจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับหรือจุกแน่นลึก ๆ บริเวณใต้กระดูกหน้าอกหรือหน้าอกซ้าย ซึ่งมักเกิดขณะเดินเร็ว ยกของหนักหรือวิ่งหรือเมื่อรู้สึกเครียด
4. โรคกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่อาการเตือนจะรู้สึกปวดท้องเมื่อกินอาหารเข้าไปประมาณ 30 นาทีถึง 3 ชั่วโมงหรือบางครั้งรับประทานอาหารก็จะรู้สึกปวดท้องทันทีทันใด โดยจะเป็นก่อนหรือหลังรับประทานอาหารก็ได้รวมทั้งมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อยด้วย
วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554
สมุนไพรดูแลผิวพรรณหน้าหนาว
สาวๆ หลายคนอาจจะมีปัญหาในการดูแลผิวพรรณให้สดชื่่น ไม่แตก ไม่ย่น ไม่คัน ในหน้าหนาว ต้องเสียเงินซื้อครีมบำรุงผิวมาชะโลมผิวกายกันมากมาย แต่วันนี้เรามีสมุนไพรพื้นบ้าน หาซื้้อง่าย ราคาไม่แพง มาฝากกันค่ะ
- น้ำมันงา นำงาดิบประมาณ 1 ถ้วย โขลกให้ละเอียด บีบเอาน้ำมันจากงาเก็บไว้ในขวด ทาผิวตอนเช้าและก่อนนอน น้ำมันงาจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดอาการแห้งแตกและคัน
- ขมิ้นชัน มีสรรพคุณช่วยลดอาการคันและช่วยลดอาการผดผื่นตามผิวหนัง เพียงนำขมิ้นชันสดมาล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียด บีบน้ำที่ได้นำมาทาผิว หลังอาบน้ำเช้า-เย็น แต่อาจจะมีสีของขมิ้นติดตามเสื้อผ้าที่สวมใส่
- ผิวมะกรูด น้ำมันที่ผิวของมะนาวและมะกรูด จะช่วยเคลือบผิว ให้ชุ่มชื้น ลดอาการคัน ลดการอักเสบ โดยนำมะนาวที่ใช้แล้ว ส่วนบริเวณผิวด้านนอกของมะนาว มาทาผิวบริเวณที่แห้งคัน เช้า-เย็น ก็จะช่วยลดอาการคันได้
วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554
ไก่ตุ๋นฟักมะนาวดอง
อาหารง่ายๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในหน้าหนาว ซดน้ำแกงร้อนๆ ช่วยทำให้ชุ่มคอ และยังละลายเสมหะได้อีกด้วยค่ะ
ส่วนผสม
- ฟักเขียว 1 ลูกเล็ก
- เห็ดหอมแห้ง 4-5 ดอก
- น่องไก่ หรือปีกบนไก่ 500 กรัม
- รากผักชีทุบ 5 ราก
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทยปอกเปลือกทุบพอแตก 7 กลีบ
วิธีทำ
- ปอกเปลือกฟักเขียว ผ่าครึ่ง ควักไส้ทิ้ง หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
- เห็ดหอมแห้งแช่น้ำให้นิ่ม ตัดก้านทิ้ง ถ้าดอกใหญ่แบ่ง 4 ส่วน
- นำน่องไก่ น้ำเปล่า น้ำมะนาวดอง รากผักชี กระเทียม ใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟแรง
- รอจนเดือดแล้วเปิดฝาหม้อ ลดไฟลง ใส่เห็ดหอม ต้มต่อ
- พอฟักเขียวสุกใส และน่องไก่เปื่อยดีแล้ว ใส่มะนาวดอง ต้มต่อสักครู่ระวังอย่าให้มะนาวแตกเพราะจะทำให้น้ำแกงขม
- ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว และผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ อาจจะตัดรสเค็มเปรี้ยวด้วยน้ำตาลทรายนิดหน่อย เพื่อให้รสกลมกล่อม
- ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย โรยด้วยผักชีเล็กน้อย จะทำให้น้ำแกงหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น
วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554
การบริหารนิ้วมือเพื่อบรรเทาโรค
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)