แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ขัดเบา ขับปัสสาวะ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ขัดเบา ขับปัสสาวะ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

คื่นช่าย

สารเคมีที่พบในใบคึ่นช่าย เป็นสารจำพวกน้ำมันหอมระเหย กรดอินทรีย์ Carotene วิตามินซีและเกลือแร่ คึ่นช่ายเป็นพืชที่มีกลิ่นฉุน ความฉุนนี่เองที่แสดงว่าคึ่นช่ายมีสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งชื่อ ฟีนอลิค อยู่มาก จึงสามารถนำมาใช้ชะลอความเสื่อมของร่างกายโดยรวมได้ดีพอสมควร คนโบราณนิยมเอากลิ่นของคึ่นช่ายมาดับคาวปลา ดังนั้นคึ่นช่ายจะมักจะขึ้นโต๊ะคู่กับปลาเสมอ

คุณสมบัติทางยาของคึ่นช่ายตามตำราจีน คือช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันเลือด ในทางการแพทย์แผนโบราณถือว่า คึ่นช่าย มีรสหวาน เย็น ไม่มีพิษ

สรรพคุณ
  • ปรับประจำเดือนให้เป็นปกติ
  • แก้อักเสบ
  • ลดความดันเลือด
  • ดับร้อน
  • แก้ไอ
  • บำรุงกระเพาะ
  • ขับปัสสาวะ ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
เนื่องจากใบคึ่นช่ายมีเกลือแร่ จำพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสอยู่มาก จึงเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูก และฟัน และยังมีฤทธิ์ ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ป้องกันเด็กเป็นโรคกระดูกอ่อน และช่วยบำรุงครรภ์ด้วย และยังมีฤทธิ์ ช่วยบำรุงสมอง ช่วยความจำ และป้องกันโรค Silicosis

สำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง มีอาการปวดมึนศีรษะ ถ้ากินคึ่นช่ายสดเป็นประจำจะมีผลดีในการรักษา แต่มีข้อระวังอยู่อย่างหนึ่งคือ ไม่ควรจะผัดหรือต้มคึ้นช่ายให้ สุกมากเกินไป เพราะความร้อนสามารถทำลายวิตามินและเกลือแร่ในคึ่นช่ายได้

คื่นช่ายมีค่าดัชนีแอนติออกซิเดนท์ 6.96

ข้อควรระวัง ห้ามใช้คึ่นช่ายกับคนที่เป็นโรคไต

ชื่อสามัญ คึ่นช่าย (Celery หรือ Smallage)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Apium graveolens Linn.

ชื่อวงศ์ UMBELLIFERAE

ชื่ออื่นๆ ชื่อพื้นเมือง ผักข้าวปืน ผักปืน ผักปืม (เหนือ)

รากหญ้าคา

แปลกไหมที่หญ้าคา ซึ่งเราถือว่าเป็นวัชพืชในแปลงพืขสวน ไร่ นา แต่กลับเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ
คนโบราณใช้รากหญ้าคามาต้มน้ำดื่ม เพื่อรักษาโรคขัดเบา

ในงานสาธารณสุขมูลฐาน แสดงไว้ว่า รสและสรรพคุณยาไทยของรากหญ้าคา มีรสจืดแก้ร้อนใน กระหายน้ำ เป็นยาขับปัสสาวะ รักษาอาการขัดเบา

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ พบว่า รากหญ้าคามี Arundoin, Cylindrin, กรดอินทรีย์ น้ำตาล เป็นต้น ไม่มีพิษเฉียบพลัน มีรายงานว่า ประเทศจีน อินโดนีเซีย ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ

ในตำรายาแผนโบราณ กล่าวว่า รากมีรสชุ่ม สุขุม ใช้ห้ามเลือด แก้อาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด ใช้ขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ปกติเป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำจับเลี้ยงของคนจีน

ส่วนที่ใช้เป็นยา ได้แก่ รากสดหรือแห้ง


สรรพคุณ

วิธีใช้เป็นยารักษาอาการขัดเบาสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน


ใช้รากสดของหญ้าคาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ วันละ 1 กำมือ (สดหนัก 40 - 50 กรัม หรือแห้ง 10 - 15 กรัม) หั่นเป็นชิ้นๆ ต้มกับน้ำ ดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารครั้งละ 1 ถ้วยชา (ประมาณ 75 มิลลิลิตร)

ปัจจุบันมีผู้ผลิตน้ำสมุนไพรรากหญ้าคาจำหน่ายเป็นอุตสาหกรรมอยู่หลายราย

ชื่อสามัญ หญ้าคา

ชื่อวิทยาศาสตร์ Imperata cylindrica Beauv.

ชื่อวงศ์ GRAMINEAE

ชื่ออื่นๆ Cogon grass, Imperata cylindrica

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดขึ้นกับผู้หญิงบ่อยกว่าผู้ชาย ทั้งนี้เพราะธรรมชาติของผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่า

อาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือปัสสาวะบ่อย ออกน้อย ปัสสาวะไปแล้วแต่ก็ยังปวดปัสสาวะอีก เวลาปัสสาวะจะแสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนปัสสาวะจะสุด จะปวดมาก หากอาการอักเสบเป็นมากจะมีปัสสาวะออกมาเป็นสีน้ำล้างเนื้อ ซึ่งแสดงว่ามีเลือดปนออกมา หรือถ้าเป็นมาก ๆ ก็จะปัสสาวะออกมาเป็นเลือดสด ๆ เลย

ที่จริงอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบรักษาให้หายขาดได้ โดยการใช้ยาปฏิชีวนะแต่ต้องกินติดต่อกันนานประมาณ 7 วันเป็นอย่างต่ำ

บางครั้งแม้ว่ารักษาไปแล้ว แต่นิสัยการกลั้นปัสสาวะยังไม่ได้แก้ เดี๋ยวก็จะติดเชื้อกลับขึ้นมาอีก ทำให้เกิดอาการปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง เดี๋ยวเป็น ๆ ไม่หายสักที

วิธีรักษา อาการนี้ทำได้ด้วยตนเอง ประการแรกคือ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทำเช่นนี้นาน 10-14 วัน เมื่อดื่มน้ำมากก็จะปัสสาวะมาก เป็นการล้างเอาแบคทีเรียออกมา ลดอัตราเสี่ยงของการติดเชื้อ ส่วนใหญ่อาการอักเสบก็จะหายไปได้เอง สมัยก่อนองค์การอนามัยโลก แนะนำให้รักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ แบบนี้แหละ

สำหรับสมุนไพรไทยที่สามารถนำมารักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ได้แก่ สมุนไพรขับปัสสาวะ ซึ่งใช้หลักการเอาน้ำไปล้างกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะอย่างเดียวกับที่องค์การอนามัยโลกเคยแนะนำ สมุนไพรไทยรอบตัวที่ใช้ได้ ได้แก่ หญ้าหนวดแมว ตะไคร้ กระเจี๊ยบแดง เหง้าสับปะรด ต้นและรากเตยหอม รากหญ้าคา ต้นคึ่นช่าย เป็นต้น ทั้งหมดนี้ให้เอามา 1 กำมือ จะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ได้ ใส่น้ำต้มให้เดือด แล้วต้มเคี่ยวให้ตัวยาออกมานาน 10 นาที แล้วดื่มต่างน้ำ ยกเว้นต้นคึ่นช่าย ให้เอาต้นสดมา 1 กำมือ แล้วคั้นน้ำดื่ม

การดื่มน้ำต้มสมุนไพร ได้ประโยชน์สองทางคือได้ดื่มน้ำมากขึ้นใช้น้ำไปขับปัสสาวะ อีกทั้งยังได้ตัวยาไปขับปัสสาวะ ล้างระบบทางเดินปัสสาวะทั้งหมดด้วย

สำหรับยาจีนก็มีอาหารซึ่งใช้เป็นยาขับปัสสาวะที่หมอจีนแนะนำให้กับคนที่ปัสสาวะไม่สะดวก ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้แก่ หัวผักกาด ผักปลัง หนวดข้าวโพด ฟักเขียว แตงโม แตงกวา เป็นต้น

ที่มา : นิตยสาร ขวัญเรือน เขียนโดย พญ.ลลิตา ธีระสิริ